ดึงอัยการไกล่เกลี่ยหนี้เกษตรกร
เยียวยาสมาชิกกองทุนฟื้นฟู - สกัดนายทุนเอาเปรียบ
นายวัชระพันธุ์ จันทรขจร เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เปิดเผยว่า ปัญหาหนี้สินของเกษตรกรเป็นปัญหาสำคัญที่รัฐบาลให้นโยบายในการแก้ไข เนื่องจากเกษตรกรยังขาดความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมายและอาจเป็นช่องว่าง ก่อให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบจากเจ้าหนี้ และการเสียประโยชน์ด้านต่างๆ โดยเฉพาะที่ดินทำกิน จากข้อมูลที่เกษตรกรยื่นคำขอขึ้นทะเบียนหนี้มี จำนวน 501,880 ราย มูลหนี้ 79,420,010,086 บาท ได้ตรวจสอบข้อมูลทะเบียนหนี้พบว่า เกษตรกรเป็นหนี้เร่งด่วนตั้งแต่หนี้ผิดนัดชำระ บังคับคดี ขายทอดตลาด รวมทั้งฟ้องล้มละลายถึง 177,753 ราย มูลหนี้ 44,211,090,679.88 บาท ปัจจุบันสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ ได้ชำระหนี้แทนเกษตรกรไปจำนวน 27,461 ราย มูลหนี้ 5,764,616,283.49 บาท ซึ่งยังมีจำนวนเกษตรกรอีกมากต้องเร่งให้ความช่วยเหลือ
ดังนั้น เพื่อให้การแก้ปัญหาต่างๆ บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ จึงร่วมกับสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) สำนักงานอัยการสูงสุด ดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่เกษตรกรที่เป็นสมาชิกของกองทุนฯ ทั้งในเรื่องของการให้ความรู้ความเข้าใจในข้อกฎหมาย ระเบียบและการดำเนินงานของกองทุนฯ ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือในด้านคดี การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท การบริหารจัดการหนี้สิน และอรรถคดีต่างๆ รวมถึงส่งเสริมความรู้ความเข้าใจทางด้านกฎหมายให้กับบุคลากรของกองทุนฟื้นฟูฯ อีกด้วย เพื่อจะสามารถลงไปปฏิบัติงานกับเกษตรกรสมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด กล่าวว่า นับเป็นโอกาสอันดีที่ทางสำนักอัยการสูงสุดโดย สคช. จะเข้ามามีบทบาทและมีส่วนร่วมในการช่วยแก้ปัญหาต่างๆ แก่เกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ซึ่งในปัจจุบันปัญหาเกี่ยวกับข้อกฎหมายเป็นปัญหาสำคัญของเกษตรกร เพราะส่วนใหญ่เกษตรกรยังขาดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง จนกลายเป็นช่องว่างให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบจากเจ้าหนี้กลายเป็นปัญหาเกี่ยวกับหนี้สินและสูญเสียที่ดินทำกิน สร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรอย่างมาก
“โดยในการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ครั้งนี้ สำนักงานอัยการสูงสุดมีภารกิจคือจัดพนักงานอัยการเพื่อให้ความ
ช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย อาทิ การให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายการจัดทำสัญญาต่างๆ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท รวมทั้งการช่วยเหลืออรรถคดีต่างๆ แก่เกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ที่อยู่ในขอบเขตอำนาจของทางสำนักอัยการสูงสุด” อัยการสูงสุดกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี