“โฟม” เป็นพลาสติกที่ฟูหรือทำให้ขยายตัวขณะขึ้นรูปโดยใช้ก๊าช และโฟมที่มีการใช้งานแพร่หลายทุกวันนี้ คือ พีเอสโฟม (Polystyrene Fome) จนเป็นภาระในกองขยะ ถูกฝังกลบอยู่ในดิน ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1,000 ปี กว่าที่จะย่อยสลายได้
นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวถึงสถานการณ์ขยะประเภทโฟมในปัจจุบันว่า จากการสำรวจปริมาณขยะประเภทโฟมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา คือตั้งแต่ปี 2552-2556 พบว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 34 ล้านใบ/วัน เป็น 61 ล้านใบ/วัน หรือโดยเฉลี่ยแล้วคนไทยสร้างขยะประเภทโฟมเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ใบ/คน/วัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า วิถีชีวิต สังคม และพฤติกรรมของคนไทยในปัจจุบันตระหนักถึงความสะดวกสบาย และความรวดเร็ว มากกว่าผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะสังคมในเมือง หรือสถานที่ที่มีการรวมตัวกันของประชาชนเป็นจำนวนมาก จะพบว่ามีขยะประเภทโฟมมากกว่าปกติ
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ยังกล่าวต่ออีกว่า โฟมถูกทิ้งเป็นขยะด้วยปริมาณและสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นขยะที่มีความคงทนและสามารถทนต่อแรงอัดได้สูง และใช้เวลาในการย่อยสลายนานกว่า 100 ปี อาจก่อให้เกิดปัญหาทางด้านมลพิษ สิ้นเปลืองงบประมาณ และพื้นที่ฝังกลบได้ กระบวนการกำจัดขยะโฟมจึงต้องมีความระมัดระวัง และปลอดภัยมากที่สุด คือจะต้องมีการเผาโฟมในอุณหภูมิให้อยู่ภายใต้การควบคุมที่ถูกต้อง เพื่อเลี่ยงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อประชาชน นอกจากนี้ เมื่อถูกนำไปใช้บรรจุอาหารที่ร้อนจัดจะเกิดปฏิกิริยาที่ทำให้สารอันตรายแตกตัวออกมาจากภาชนะโฟมได้อีกด้วย เช่น สารสไตรีน (styrene) และ เบนซิน (Benzene) ที่มีส่วนในการทำลายไขกระดูก ทำลายตับ และไต มีผลต่อประสาทส่วนกลางและส่วนปลายที่ทำให้การเคลื่อนไหวและการทรงตัวไม่ดี รวมทั้งอาจเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้จำนวนเม็ดเลือดลดลงและทำลายระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกายได้
“ทางกรมควบคุมมลพิษจึงสนับสนุนและส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น กล่องที่ทำจากพลาสติกที่สลายตัวได้ทางชีวภาพ (Compostable plastics) ชานอ้อย เยื่อไผ่ มันสำปะหลัง เป็นต้น เพื่อส่งเสริมให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการผลิตและการบริโภคสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หันมาหาผลิตภัณฑ์และบริโภคสินค้าที่ปลอดภัยและย่อยสลายได้ง่าย ไม่ตกค้างต่อสิ่งแวดล้อม โดยให้ภาครัฐเป็นหน่วยงานนำร่อง ในการบริโภคสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นตัวอย่างและขยายผลไปสู่ภาคประชาชน อีกทั้งยังเน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบจากการใช้โฟม ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาการย่อยสลาย หรืออันตรายของโฟมที่มีผลต่อสุขภาพ” นายวิเชียร กล่าว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การสร้างวินัยของคนในชาติ รณรงค์ ให้ความรู้ ปลูกจิตสำนึก หันมาใช้วัสดุอื่นแทนสร้างความตระหนักให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการขยะมูลฝอย ตั้งแต่การลด คัดแยกที่ต้นทาง ตามแผนงาน Roadmap การจัดการขยะมูลฝอยและของเสียอันตราย พร้อมฝากไปถึงประชาชนและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอีกว่า ไม่อยากให้ปัญหาขยะโฟมเป็นเรื่องไกลตัวหรือคิดว่าเป็นสิ่งที่แก้ไขยาก หากทุกคนร่วมมือกันอย่างเต็มที่ก็มีส่วนทำให้ปัญหาต่างๆ หมดไปได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี