กระทรวงเกษตรฯ เตรียมผลักดันร่างพ.ร.บ.การยางแห่งประเทศไทย เข้า สนช. สัปดาห์หน้า ระบุใช้เป็นเครื่องมือแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ
นายอำนวย ปะติเส ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าหลังจากครม.ได้เห็นชอบมาตรการเฉพาะหน้าดึงราคายางพาราให้ปรับตัวสูงขึ้นนั้นมีทั้งสิ้น 3 มาตรการ โดยจะเริ่มรับซื้อยางช่วงปลายเดือนนี้ ซึ่งจะเป็นฤดูเปิดกรีดยางพอดี คือ
ให้องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) ซื้อยางดิบจากเกษตรกร โดยใช้งบเดิมที่รัฐบาลก่อนหน้านี้อนุมัติไว้แล้ว จำนวน 20,000 ล้านบาท ขณะเดียวกันมีมติปล่อยสินเชื่อวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ร้อยละ 3 วงเงิน 10,000 ล้านบาท จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สำหรับให้สหกรณ์สวนยางรับซื้อยางจากเกษตรกรมาขายให้ อ.ส.ย. พร้อมกันนี้ได้ขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์ 6 แห่ง ในการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการน้ำยางข้น 10,000 ล้านบาท เพื่อรับซื้อน้ำยางจากเกษตรกร โดย ตั้งเป้าผลักดันราคายางพาราให้อยู่ในระดับ 60 บาทต่อกิโลกรัมภายใน 1-2 เดือน
นายอำนวย กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์หน้า นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา เตรียมผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. ...ที่ตกค้างมาจากรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งขณะนี้กำลังจะนำร่าง พ.ร.บ.การยางเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อีกครั้ง
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือ ทำให้การจัดการแก้ไขปัญหายางพาราในส่วนของการบริหารจัดการภาครัฐให้เป็น เอกภาพ จากเดิมมี 3 หน่วยงานในการแก้ปัญหา ได้แก่ สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) องค์การสวนยาง (อ.ส.ย.) และสถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร ให้รวมเป็นหน่วยงานเดียวเฉพาะในการแก้ปัญหา ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ทำให้อุดช่องโหว่ของการทำงานที่ผ่านมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี