1 พ.ย.57 นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า เริ่มจ้างแรงงานชาวนา และเกษตรกรภาคอื่นๆในทุกลุ่มน้ำทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย.เป็นต้นไป โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำแม่กลอง 26 จ. ที่จะเริ่มคิกออฟเป็นจุดแรกเพราะเป็นพื้นที่ประกาศตามมติ ครม.ห้ามทำนาปรังในฤดูกาลผลิตนี้ ซึ่งสำนักงานชลประทานในทุกพื้นที่สามารถจ้างแรงงานชาวนาทำงานได้ทันที โดยใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 1 วงเงิน 2 พันล้านให้แล้วเสร็จช่วงสองเดือนพ.ย.และสิ้นสุด 31 ธ.ค.โดยต่อเนื่องงบปี58 วงเงินกว่า 1.9 พันล้านบาท โดยจ้างแรงงานวันละ 300 บาทต่อคนต่อแรง เฉลี่ยเดือนละ 6,600 บาทต่อคน ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เร่งรัดจ่ายเงินค่าจ้างให้กับเกษตรกรทุก 15 วัน เพื่อกระจายเม็ดเงินลงสู่ชนบทเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้ายของปีให้เกิดความคล่องตัวจนถึงปีหน้า โดยกลุ่มเป้าหมายแรกคือจ้างแรงงานชาวนาที่ต้องหยุดทำนาปรัง 2 แสนครัวเรือน เพื่อช่วยเหลือด้านรายได้ที่ไม่สามารรถประกอบอาชีพการเกษตรในช่วงฤดูแล้งเนื่องจากกรมชลประทาน ได้ประกาศหยุดส่งน้ำเพื่อการเกษตรตั้งแต่ 1 พ.ย.57-1 พ.ค.58 โดยตนจะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการจ้างแรงงานชาวนาในพื้นที่ชลประทานที่ 12 ในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดในวางระบบตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมกับเกษตรกรมากที่สุดเพราะเป็นเงินที่รัฐบาลต้องการช่วยให้ถือมือเกษตรกรตัวจริง
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่าขณะนี้หมดฤดูการเพาะปลูกไปแล้ว ทุกพื้นที่ชลประทานเริ่มรับสมัคร และให้เกษตรกรทำงานได้เลยตามเนื้องานที่วางไว้แล้ว ซึ่งเป็นงานไม่หนัก เช่นขุดลอกคูคลอง ตักตะกอน งานซ่อมต่างๆเช่น ดาดคอนกรีต ซ่อมแผงคอนกรีตในคลอง ถางหญ้าคันคลองชลประทาน กำจัดผักตบชวาและวัชพืชที่กีดขวางทางระบายน้ำ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทงานในแต่ละโครงการ ซึ่งมั่นใจว่า มีเกษตรกรสนใจเพราะเป็นลักษณะคล้ายๆ กับงานของเกษตรกรอยู่แล้ว ขณะนี้ในพื้นที่ลุ่มภาคกลาง 5 จังหวัดเช่นพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท ลพบุรี มีชาวนามายื่นความจำนงแล้วหลายหมื่นครัวเรือน
"ถือว่ากรมชลฯเปิดโอกาสให้ชาวนาในลำดับต้นและเกษตรกรอื่นๆที่มีอายุ 16-60 ปี หากไม่เพียงพอกับเนื้องานจึงอนุโลมจ้างงานประชาชนทั่วไปได้ โดยชาวนาที่หยุดทำนาปรังกระทบทั้งหมดในสองลุ่มน้ำ 2.6 แสนครัวเรือนแต่ส่งเสริมปลูกพืชใช้น้ำน้อยได้ 6 แสนครัวเรือน" นายเลิศวิโรจน์ กล่าว
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวด้วยว่า ขอยืนยันวันนี้ไม่มีน้ำให้ทำนาปรังอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้ได้รับรายงานว่ามีชาวนาเสี่ยงปลูกข้าวไปแล้วหลายหมื่นไร่ ในภาคกลางเพราะเห็นว่า ยังมีน้ำในคลองและสามารถสูบน้ำเข้านาได้ รวมทั้งไม่มีกฎหมายอะไรไปบังคับหรือเอาผิดได้ ซึ่งก็ยอมรับว่า เป็นมาตรการขอความร่วมมือเท่านั้น แต่อยากให้ชาวนาตระหนักว่า ทำให้คนอื่นเสี่ยงไม่มีน้ำกินน้ำใช้ไปด้วย จนต้นปีที่แล้วเกิดน้ำเค็มดันระบบตั้งแต่เดือนมกราคม เพราะไม่มีน้ำดิบไปผลักดักทำให้เกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่มาตลอด เพราะเป็นผลจากทำนาปรังปีที่แล้วที่กินน้ำต้นทุนไปถึง 2 พันล้านลบม. และไม่สามารถส่งเสริมทำนาปีได้ทันต้นฤดู
“ปีนี้ไม่มีน้ำจริงๆ หากเอาน้ำที่จัดสรรไว้แล้วไปทำนาปรัง จะกระทบวงกว้าง ทั้งน้ำกินน้ำใช้ ผลักดันน้ำเค็มไม่ได้จะเข้าระบบผลิตปะปา โดยคนกว่า 10 ล้านคนทั้งใน กทม. และปริมณฑล กระทบโรงพยาบาล และโรงงานมากที่สุด ซึ่งคนสามารถกินน้ำกร่อยได้ แต่โรงงานบางประเภทและเครื่องมือแพทย์ โดนค่าความเค็มเกิน 0.50 กรัมต่อลิตรจะพังหมดเสียหายทันที ดังนั้นการสูบน้ำทำปะปา ต้องระวังรอจังหวะสูบให้ช่วงน้ำเค็มลดระดับลง จะเกิดปัญหาสูบน้ำไม่พอเพียงต่อการจ่ายน้ำ ซึ่งในบางพื้นที่อาจจะจ่ายน้ำไม่ต่อเนื่องประชาชนควรหาถังหรือภาชนะรองน้ำไว้ล่วงหน้าด้วย ถ้าชาวนายังทำนากันอยู่ ความเสี่ยงไม่อยู่เกษตรกรฝ่ายเดียว”นายเลิศวิโรจน์ กล่าวว่า
อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวอีกว่า สิ่งเหล่านี้ควบคุมยากเพราะการระบายน้ำท้ายเขื่อนภูมิพลและ สิริกิติส์ ผ่านระบบแม่น้ำและคลองชลประทานลงมากว่าจะถึง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จะต้องไม่ต่ำกว่า 80 ลบม. ต่อวินาที แต่ในช่วงทางผ่านระบายลงมาประมาณนี้ หากมีการใช้ระหว่างทางจะทำให้ปริมาณน้ำไม่ถึงเพียงพอผลักดันผลักดันน้ำเค็ม ต้องมีระบายเพิ่มลงมาจะกินเนื้อไปเรื่อยๆ ใช้มากระบายไม่ทันมีปัญหากระทบทั้งประเทศ โดยกรมชลฯได้หาปริมาณน้ำไว้ทำปะปา 1,100 ล้านลบม. รักษาระบบนิเวศน์ผลักดันน้ำทะเล 1,400 ล้านลบม.สำรองไว้ปีหน้า 3,200 ล้านลบม จริงๆสำรองไว้ที่ 3,600 ล้านลบม.แต่กันน้ำกับเกษตรกรปลูกพืชผักในฤดูแล้งนี้ 400 ล้านลบม.ขอให้ชาวนาเชื่อฟังและให้ไปปลูกข้าวนาปีตามฤดูกาลปี 58 จะได้ทั่วถึงเกษตรกรทั้งหมด เกษตรกรทำนาปรังแค่ส่วนน้อยอย่าทำให้คนส่วนใหญ่เดือดร้อน
นายฏรงกร สมตน หัวหน้าสำนักงานชลประทานที่ 12 เปิดเผยว่า 5 จังหวัดลุ่มภาคกลางรับสมัครและจ้างงานชาวนาพร้อมกับประชาชนทั่วไปในบางพื้นที่กระจายไปพื้นที่ชลประทาน เพราะบางพื้นที่จำนวนเกษตรกรไม่พอ ขณะนี้รองบลงก็สามารถให้เริ่มทำงานได้เลย ในโครงการชลประทานในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ลุ่มน้ำสุพรรณบุรี ฝั่งตะวันตก ตะวันออก และลุ่มน้ำป่าสัก ลพบุรี พร้อมกับเตรียมงานมีประชาสัมพันธ์ เปิดรับสมัครต่อเนื่อง โดยเน้นขุดลอกคู โดยขอวงเงินงบประมาณจ้างแรงงานไปแล้ว 100 ล้านบาท ทั้งนี้ ในครัวเรือนเกษตรกรสามารถมาเป็นแรงงานได้ทั้งหมดไม่จำกัดจำนวน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี