นายกมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงการป้องกันการแทรกแซงนโยบายการศึกษาจากฝ่ายการเมือง ว่า ทางคณะกรรมาธิการด้านการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ได้กำหนดแนวทางไว้ 5 แนวทางหลักด้วยกัน และเรื่องที่มีการพูดถึงและได้รับความสนใจอย่างมากคือ การปรับกลไกทางกฎหมายให้รองรับกับการปฏิรูป เช่น โครงสร้าง กฎระเบียบต่างๆ การวางกลไกที่ลดการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง เพื่อไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับนโยบายการศึกษา เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล ก็จะมีการเปลี่ยนนโยบายทางการศึกษา ซึ่งการศึกษาเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการพัฒนา ถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายอยู่เสมอก็จะไม่มีทางที่การศึกษาจะประสบความสำเร็จ และหากสามารถทำเป็นกฎหมาย หรือบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญได้ ก็จะทำให้นโยบายการศึกษาดำเนินการและพัฒนาไปตามวงรอบของตัวมันเอง และอาจจะมีการกำหนดถึงระยะเวลาในการทบทวนตัวนโยบายเองว่าในแต่ละนโยบายนั้นควรมีระยะเวลาการดำเนินการเท่าใด เช่น โครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งอาจจะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 3 ปี จึงจะเห็นผลสัมฤทธิ์ เป็นต้น ถ้าหากไม่กำหนด เมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามาทำงาน อาจจะมีการยกเลิกโครงการดังกล่าว ก็จะทำให้โครงการไม่มีผลสัมฤทธิ์ใดๆทางการศึกษาเลย เพราะในปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายที่จะรองรับเรื่องการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง หรือแม้แต่แผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ ที่ทางสภาการศึกษาเป็นผู้เขียนขึ้น หากฝ่ายการเมืองไม่พอใจก็เลือกที่จะไม่ปฏิบัติตามได
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี