ปัจจุบันกระแสการบริโภคสัตว์น้ำโดยเฉพาะสัตว์ทะเล เพื่อเป็นการดูแลและรักษาสุขภาพเพิ่มมากขึ้น ประเทศไทยนับว่าเป็นผู้นำภาคการประมงในภูมิภาค โดยผลผลิตสัตว์น้ำรวมของประเทศได้มาจากการจับจากทะเลเป็นส่วนใหญ่ ผลผลิตสัตว์น้ำนอกจากเป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่สำคัญสำหรับประชากรในประเทศ ยังสามารถส่งออกเป็นสินค้าและผลิตภัณฑ์แปรรูปชนิดต่างๆ นำเงินตราเข้าประเทศปีละหลายแสนล้านบาท ในช่วงเวลาที่ผ่านมา สัตว์น้ำถูกจับขึ้นมาใช้ประโยชน์อย่างมากมายจนเกินกำลังผลิตของธรรมชาติ ส่งผลให้สัตว์น้ำในท้องทะเลไทยลดลง
ดร.วารินทร์ ธนาสมหวัง ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการประมง กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังได้รับรางวัล “นักเทคโนโลยีดีเด่น ประเภทกลุ่ม ประจำปี 2557” จากมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ว่า งานวิจัยที่ได้รับรางวัลเป็นผลงานวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเพื่อความมั่งคงและความปลอดภัยทางด้านอาหาร โดยคำนึงถึงการนำไปใช้ประโยชน์และการแก้ไขปัญหาของประเทศ เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและยกระดับความเป็นอยู่ของเกษตรกรชาวประมงให้ดียิ่งขึ้น การศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจในลำดับต้นๆ สำหรับรางวัลที่ได้นั้นจะเน้นเรื่องของการใช้เทคโนโลยีการเพาะพันธุ์ปลากะรังที่มีมูลค่าสูง 3 ชนิด ได้แก่ ปลากะรังจุดฟ้า ปลากะรังเสือ และปลาหมอทะเล เพื่อให้มีอัตราการรอดตายสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรลดปริมาณนำเข้าลูกพันธุ์จากต่างประเทศ หลังพบว่าปลาในกลุ่มนี้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจและเป็นที่นิยมในตลาดต่างประเทศค่อนข้างสูง
โดยได้ศึกษาปัจจัยต่างๆ ทั้งด้านการจัดการ ด้านเทคนิค และการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมโดยมีขั้นตอนงานวิจัยเริ่มตั้งแต่ 1.การเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ให้สมบูรณ์พร้อมที่จะเพาะพันธุ์ 2.การพัฒนาเทคนิคการเพาะพันธุ์ปลาแต่ละชนิด 3.การพัฒนาเทคนิคการอนุบาล ลูกปลาแต่ละชนิด 4.การพัฒนาวิธีการตรวจวินิจฉัยโรคที่เกิดจาก Viral Nervous Necrosis (VNN) ด้วยเทคนิค Polymerase Chain Reaction (PCR) ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสโนดะ (Nodavirus) โดยเชื้อดังกล่าวมีผลทำลายเซลล์ประสาทของปลา รวมทั้งให้บริการเกษตรกรในการตรวจวินิจฉัยโรคที่เกิดจาก VNN เนื่องจากไวรัสชนิดนี้มีการแพร่เชื้อในแนวดิ่งจากพ่อแม่สู่ลูก การป้องกันโรคจึงต้องใช้พ่อแม่พันธุ์ปลาที่ไม่เป็นพาหะของโรค การคัดเลือกลูกปลาที่ปราศจากเชื้อไวรัส จึงควรตรวจสอบสุขภาพปลาและตรวจหาเชื้อไวรัส VNN ก่อนนำไปเลี้ยง
นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่ทำควบคู่กันไปหลายอย่าง อาทิ 1.เทคโนโลยีการผลิตลูกพันธุ์ปูม้า ซึ่งเป็นการฟักไข่ปูม้าจากตับปิ้งของแม่ปูไข่นอกกระดอง หลังพบว่า ไข่นอกกระดองของปูม้าที่ชาวประมงจับมาถูกทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์เป็นการทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำไปอย่างน่าเสียดาย คณะวิจัยยังได้พัฒนาเทคโนโลยีการผลิตพันธุ์ปูม้าค่อนข้างสมบูรณ์ เนื่องจากมีการศึกษาปัจจัยต่างๆ เพื่อหาวิธีการที่เหมาะสมในการอนุบาลลูกปูม้าอย่างเป็นระบบทั้งในเรื่องอาหาร การให้อาหาร การจัดการด้านเทคนิค การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนต้นทุนการผลิตลูกปูระยะ Young crab เชิงพาณิชย์ ทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆมากมาย
2.การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต Surrogate broodstocks เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ถูกพัฒนาขึ้นโดยนักวิจัยชาวญี่ปุ่นที่ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่คณะนักวิจัยไทย โดยเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นการถ่ายเซลล์สืบพันธุ์ของปลาชนิดหนึ่งไปสู่ปลาอีกชนิดหนึ่ง เพื่อให้เป็นพ่อแม่พันธุ์ สำหรับการเพาะเลี้ยงโดยคณะวิจัย ได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาใช้ในการถ่ายเซลล์สืบพันธุ์ของปลาหมอทะเลให้กับปลากะรังเสือ เพื่อให้ปลากะรังเสือทำหน้าที่เป็นพ่อแม่พันธุ์แทนปลาหมอทะเล เนื่องจากปลากะรังเสือเป็นปลาที่มีขนาดเล็ก ใช้ระยะเวลา และค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงเป็นพ่อแม่พันธุ์น้อยกว่าปลาหมอทะเล เทคโนโลยีนี้จะช่วยย่นระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงปลาหมอทะเลให้เป็นพ่อแม่พันธุ์
3.การปรับปรุงพันธุ์ปลากะพงขาว เป็นการรวบรวมสายพันธุ์จากแหล่งต่างๆทั้งหมด 91 ตัว โดยมีข้อมูล DNA และถูกฝัง microchip ทุกตัว แล้วเลี้ยงรวมกัน เพื่อให้เกิดการผสมพันธุ์และวางไข่ในปริมาณมาก ลูกพันธุ์ที่ได้จะถูกนำไปทดสอบคุณสมบัติต่างๆที่ต้องการ จากการตรวจ DNA ของลูกพันธุ์ทำให้ตรวจย้อนไปถึงพ่อแม่พันธุ์ คุณลักษณะที่ปรับปรุงในอันดับแรก คือ ความทนทานต่อสภาพออกซิเจนต่ำ 4.การปรับปรุงพันธ์กุ้งขาวแวนนาไม เป็นการรวบรวมกุ้งที่มีความแตกต่างทางพันธุกรรมจากแหล่งต่างๆ มาเลี้ยงภายใต้สภาพปลอดเชื้อ เพื่อสร้างความหลากหลายของสายพันธุ์และคัดเลือกสายพันธุ์กุ้งที่มีคุณลักษณะที่ดีซึ่งการวิจัยและพัฒนายังอยู่ระหว่างดำเนินการ 5.การพัฒนาวิธีการตรวจสอบสารเคมีอันตรายเพื่อลดความเสี่ยงการปนเปื้อนในสินค้าประมง ภายใต้เทคนิคที่รวดเร็วและค่าใช้จ่ายต่ำเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก โดยลดข้อกีดกันทางการค้าจากการผลิตสินค้าสัตว์น้ำที่มีความปลอดภัยต่อการบริโภคโดยเฉพาะการเฝ้าระวังการใช้สารเคมี Malachite green (MG) ซึ่งเป็นสารเคมีที่เคยใช้ในกิจกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการกำจัดโปรโตซัว เชื้อรา และแบคทีเรีย โดยที่สารดังกล่าวเป็นสารก่อมะเร็งและมีความเป็นพิษสูง จึงมีการห้ามใช้กับสัตว์น้ำเพื่อการบริโภค
“ปัจจุบันปริมาณสัตว์น้ำจากทะเลลดน้อยลง ดังนั้นการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง จึงเป็นทางเลือกที่สำคัญของเกษตรกรที่จะเพิ่มผลผลิตทดแทนและเกิดความยั่งยืนในการประกอบอาชีพ โดยคาดว่าเทคโนโลยีจากงานวิจัยดังกล่าวจะทำให้มีผลผลิตสัตว์น้ำจากการเพาะเลี้ยงเพิ่มขึ้นประมาณ 5% และเป็นการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศรวมทั้งการส่งออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ดร.วารินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี