5 พ.ย.57 นายรังสรรค์ มณีเล็ก รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการเครือข่ายการศึกษาทางเลือกโรงเรียนขนาดเล็กและโรงเรียนชุมชน ที่มี ดร.สิริกร มณีรินทร์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ เป็นประธาน ว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เตรียมเสนอขอแก้ไขกฎหมายให้การจัดการศึกษาทางเลือกทุกประเภท ตามมาตรา 12 พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความพร้อมในการจัดการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นบุคคล ครอบครัว สถานประกอบการ สถาบันทางด้านศาสนา องค์กร ชุมชน เอกชน ได้รับการอุดหนนงบประมาณจากรัฐ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกกฎกระทรวงมา 5 ฉบับ เพื่อรองรับการจัดการศึกษาทางเลือกแล้ว เช่น การจัดการศึกษาโดยครอบครัว หรือโฮมสคูล การจัดการศึกษาโดยสถานประกอบการ แต่เฉพาะโฮมสคูล และการจัดการศึกษาโดยสถานประกอบการเท่านั้น ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐในรูปของเงินอุดหนุนรายหัวการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า ควรจะต้องเสนอขอแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อการศึกษาทางเลือกทุกกลุ่ม ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ต่อไปในอนาคตการศึกษาทางเลือกทั้งหมดต้องได้รับการอุดหนุนจากภาครัฐในเรื่องของความรู้ เงินอุดหนุนและการลดหย่อนยกเว้นภาษีตามที่ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติกำหนดไว้
"ที่ผ่านมาจะพบปัญหาในเรื่องความรู้ ความเข้าใจ ปัญหาการสื่อสารระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐในการรับจดทะเบียนศูนย์การเรียน เนื่องจากกฎกระทรวงยังออกไม่ครบ จึงยังไม่มีแนวปฏิบัติทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจดทะเบียนให้ได้ แต่ขณะนี้ปัญหาดังกล่าวหมดไปแล้ว เพราะมีกฎกระทรวงออกมารองรับ และเมื่อดูแนวโน้มแล้วเด็กที่เข้ามาเรียนก็มีจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น" รองเลขาธิการ กพฐ.กล่าว
ด้าน ดร.สิริกร กล่าวว่า ที่ประชุมได้มอบหมายให้ สพฐ.ไปทำแผนปฏิบัติการพัฒนาการศึกษาทางเลือก เสนอ รมว.ศึกษาธิการ โดยเร็ว เพราะการจัดการศึกษาทางเลือกยังมีปัญหาหลายอย่าง จำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ตรงกัน รวมถึงอาจต้องมีการปรับแก้กฎกระทรวงด้วย เพื่อกำจัดอุปสรรคในการจัดการศึกษาทางเลือก
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังมอบหมายให้ สพฐ.ทำแผนปฏิบัติเพื่อเยียวยา ช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็กทั่วประเทศ เสนอ รมว.ศึกษาธิการ เช่นกัน โดยให้ สพฐ.นำข้อมูลจริงมาดู และวางแผนแก้ปัญหาของโรงเรียนขนาดเล็กในทุกด้าน ทั้งด้านบุคลากร การบริหารจัดการ ตัวอย่างเช่น ปัญหาที่ผู้บริหารสถานศึกษาขนาดเล็กกว่า 2,000 แห่ง ยังไม่ได้รับการบรรจุ ทบทวนเกณฑ์จำนวนนักเรียนต่อครูที่เหมาะสมสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก เพราะเกณฑ์ 25 ต่อ 1 ของธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเซีย อาจไม่เหมาะสมสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก ที่สำคัญหากโรงเรียนขนาดเล็กแห่งใดไม่สามารถยุบได้ เพราะจะส่งผลกระทบต่อนักเรียนในชุมชนแล้ว สพฐ.จะต้องทำแผนช่วยเหลือโรงเรียนแห่งนั้นให้ชัดเจน และแตกต่างจากแผนช่วยเหลือในแบบเดิมๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี