เกษตรฯเตือนใช้สารโพแทสเซียมฯ แนะเร่งลำไยนอกฤดูพอประมาณ
วันจันทร์ ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557, 14.07 น.
Tag :
10 พ.ย. 57 นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุระเบิดโรงเก็บสารโพแทสเซียมคลอเรต ซึ่งเป็นสารเร่งผลผลิตลำไยที่ อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ว่า สารดังกล่าวเป็นสารที่เกษตรกรนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตลำไยทั้งในและนอกฤดู เนื่องจากมีคุณสมบัติสามารถชักนำให้ลำไยออกดอกและติดผลได้โดยไม่ต้องพึ่งอากาศหนาวเย็น ทำให้การการผลิตลำไยนอกฤดูประสบความสำเร็จ มีการส่งออกลำไยนอกฤดูปีละประมาณ 1.5 –2 แสนตัน หรือประมาณ 20 – 30 เปอร์เซ็นต์ ของผลผลิตลำไยทั้งหมด หรือแม้แต่การผลิตลำไยในฤดูเกษตรกรก็นิยมใช้
"สารโพแทสเซียมคลอเรตที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมวิชาการเกษตร ตามประกาศ พ.ศ.2550 นั้น ต้องเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่มีเนื้อสารโพแทสเซียมคลอเรตไม่เกิน 15 เปอร์เซ็นต์และต้องผสมสารหน่วงปฏิกิริยาโดยต้องระบุชนิดและปริมาณของสารหน่วงปฏิกิริยา โดยที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดมาขอขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายในการผลิตสารโพแทสเซียมคลอเรตที่มีสารออกฤทธิ์ไม่เกิน 15 เปอร์เซ็นต์"นายอนันท์ กล่าว
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวเตือนว่าการนำสารโพแทสเซียมคลอเรตที่มีสารออกฤทธิ์เกิน 90 %ไปใช้ในการเกษตรโดยไม่ให้เกิดการระเบิดหรือเกิดอันตรายนั้น เกษตรกรต้องใช้สารโพแทสเซียมคลอเรต อย่างระมัดระวังและใช้ให้ถูกวิธีตามคำแนะนำ โดยควรซื้อสารโพแทสเซียมคลอเรตมาให้พอดีกับที่ต้องการใช้เท่านั้น และต้องเก็บสารไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด ที่สำคัญคือไม่ควรนำโพแทสเซียมคลอเรตไปผสมกับสารอื่น เช่น กำมะถันผง ผงถ่าน ขี้เลื่อย ปุ๋ยยูเรีย และสารฆ่าแมลง รวมทั้งห้ามตำสารหรือกระแทก หรือทำให้เกิดประกายไฟ และระหว่างเตรียมการใช้สารห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่นั้นโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ร้านค้าที่มีการจำหน่ายสารโพแทสเซียมคลอเรตต้องจัดวางสารให้ห่างจากปุ๋ยเคมี และวัตถุอันตรายทางการเกษตรที่อาจเป็นวัตถุไวไฟและเกิดการระเบิดได้