ดีเอสไอรับคดีรุกป่าฯ-อุทยานฯ พ่วงอ้างโครงการพระราชดำริ
วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557, 18.37 น.
Tag :
13 พ.ย. 57 เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เป็นประธาน นัดประชุมบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษชุดใหม่ ครั้งแรก โดยมี พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
นายวิษณุ กล่าวว่า ประชุมมีมติรับคดีพิเศษ 3 คดี ประกอบด้วย 1.กรณีกลุ่มบุคคลอ้างตัวเป็นผู้ดำเนินการโครงการธนาคารหมู่บ้านไบโอดีเซลและสหกรณ์พลังงานเพื่อไทยตามแนวทางพระราชดำริ หลอกลวงประชาชน 2.กรณีการบุกรุกยึดครอบครองที่ดินโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายในเขตป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขากมลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และ 3.กรณีการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติสิรินาถ ต.สาคู ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มูลค่าความเสียหายกว่า 50,000 ล้านบาท
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า แนวทางการรับคดีพิเศษหลังจากนี้จะเน้นเฉพาะคดีที่มีความสลับซับซ้อน และคดีที่กระทบกับความสงบเรียบร้อย ศีลธรรมอันดีของชาติเท่านั้น ทำให้จากนี้แม้บางคดีจะเข้าข่ายลักษณะความผิดตามบัญชีแนบท้ายการสอบสวนคดีพิเศษแต่หากไม่ใช่คดีที่มีความสลับซับซ้อน ต้องใช้อำนาจพิเศษ ใช้ความรวดเร็ว หรือหากไม่รับสอบสวนแล้วคดีจะขาดอายุความ ก็ไม่จำเป็นต้องรับเป็นคดีพิเศษ นอกจากนี้หลายคดีมีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วนราชการที่ทำหน้าที่สืบสวนอยู่แล้วก็เห็นควรให้ใช้อำนาจหน่วยงานนั้นดำเนินการ ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงอาจทำได้ดีกว่าดีเอสไอ หากยึดตามแนวทางนี้ดีเอสไอก็จะไม่ถูกการเมืองเข้ามาแทรกแซงเหมือนเช่นอดีตที่ผ่านมา
"ดีเอสไอต้องไม่สักแต่รับคดี ไม่ใช่ว่าคดีใหญ่โตรุนแรงแล้วต้องรับเป็นคดีพิเศษเสมอไป ต้องเลือกรับคดีพอสมควร อาชญากรรมตามท้องถนนซึ่งตำรวจทำคดีได้ดีไม่ควรส่งมาให้ดีเอสไอ ที่ผ่านมาดีเอสไอจะถูกกดดันอยู่ 2 เรื่อง คือรับคดีที่ไม่ควรเป็นคดีพิเศษ กับมีชาวบ้านเดินขบวนมากดดันให้รับคดีพิเศษเพราะหวังว่าการสอบสวนจะรวดเร็ว ต่อไปนี้จะรับเฉพาะคดีที่มีความสลับซับซ้อนเท่านั้น" รองนายกรัฐมนตรี ระบุ
นายวิษณุ กล่าวอีกว่า ส่วนคดีพิเศษที่รับสอบสวนไว้ก่อนหน้านี้บางคดีหากพิจารณาแล้วพบว่าไม่จำเป็นต้องใช้การสอบสวนคดีพิเศษ ก็สามารถปรับลดเป็นคดีอาญาปกติให้ตำรวจหรือสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ดำเนินการต่อได้ หลังจากนี้ได้มอบหมายให้พิจารณาว่ามีคดีใดบ้างที่จะลดความจำเป็นจากคดีพิเศษซึ่งกรณีดังกล่าวสามารถขอมติเพื่ออนุมัติเปลี่ยนเป็นคดีอาญาทั่วไปได้ นอกจากนี้จะมีการแก้ไขพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษเพิ่มเติมให้ความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นความผิดแนบท้ายคดีพิเศษด้วย
ขณะที่ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล ผบ.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ กล่าวว่า ในวันนี้ได้ส่งพนักงานสอบสวนลงพื้นที่สอบพยานคดีบุกรุกที่ดินอุทยานสิรินาถและเทือกเขากมลา ซึ่งคดีบุกรุกสิรินารถดีเอสไอขอตรวจสอบแผนที่ทางอากาศพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิในเขตอุทยาน 379 แปลง เนื้อที่กว่า 2,700 ไร่ โดยเอกสารสิทธิส่วนใหญ่เป็น สค. 1 ปลอม ทั้งที่ตั้งและเนื้อที่ โดยพบความผิดปกติในเอกสารสิทธิหลายรูปแบบทั้งการปลอม สค. 1 ทั้งพิกัดและเนื้อที่ รวมทั้งบางรายเป็นสค. 1 ที่ดินจากแปลงอื่น และสค. 1 ที่ออกเกินจากพื้นที่จริง
“ปัจจุบันมีการเข้าไปปลูกสร้างบ้านพักตากอากาศ โรงแรม และอีกหลายแปลงที่ยังคงสภาพเป็นป่าสมบูรณ์หากออกโฉนดสำเร็จจะมีราคาขายไร่ละไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท
ส่วนการบุกรุกขอออกโฉนดในเทือกเขากมลา ผู้เกี่ยวข้องเป็นอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตที่ใช้อิทธิพลดำเนินการออกโฉนดในเขตป่า ปัจจุบันเกษียณอายุราชการแล้ว ซึ่งดีเอสไอจะประสานผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศ ให้วิเคราะห์ภาพถ่ายพื้นที่ทั้งสองแห่ง เพื่อให้ฐานข้อมูลของดีเอสไอและป.ป.ช.เป็นชุดเดียวกัน” พ.ต.ท.ประวุธ กล่าว