จาการติดตามการทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มานานหลายเดือน หลังจากที่รัฐบาล “ประยุทธ์1” ไว้วางใจให้ท่านรัฐมนตรี “ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา” มานั่งในตำแหน่งรัฐมนตรี ด้วยความหวังว่าจะเดินหน้าแก้ปัญหาภาคการเกษตรได้อย่างเต็มที่ เพราะเป็นถึงอดีตข้าราชการเก่า ที่เคยนั่งในตำแหน่ง “ปลัดกระทรวงฯ” ที่ถือว่าสูงสุดของข้าราชการในหน่วยงาน
นั่นหมายถึง ท่านย่อมทราบถึงปัญหาที่เคยเกิดขึ้นภายในกระทรวงฯอย่างทะลุปุโปร่ง ว่าควรจะเดินทางไปทางไหน และควรจะสะสางปัญหาอย่างไรที่จะให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อประเทศชาติ เพราะการเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ในครั้งนี้ ท่าน “ปีติพงศ์” แทบไม่มีต้นทุนที่ต้องแสวงหา อะไร เพื่อส่งต่อใครที่อยู่เบื้องหลังยกเว้นการส่งต่อความดีให้อนุชนรุ่นหลังได้รับทราบว่าครั้งหนึ่ง ท่านเคย มาวางกรอบการทำงานในกระทรวงเกษตรฯเดินหน้าไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง หลังถูกครอบงำจากพรรคการเมืองมานานหลาย 10 ปี
จากการติดตามการทำงานของทีมรัฐมนตรีมานานกว่า 3 เดือนที่เข้ามารับตำแหน่งถึงวันนี้ต้องบอกว่า ผิดหวัง เพราะงานที่ทางรัฐบาลตั้งเป้า แก้ปัญหาปากท้อง ที่วาดหวังให้เกษตรกรลืมตาอ้างปากได้ วันนี้ต้องบอกว่า อ้าปากค้างมากกว่า เพราะจนถึงวันนี้ สิ่งที่ทำ ตามที่รัฐบาลตั้งเป้า ที่ต้องการให้สะสางปัญหา แทบไม่มีวี่แววคืบหน้า ทั้งข้าว และยางพารา วันนี้ได้แค่แจกเงิน กระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นเหมือนเงินซื้อใจ ไร่ละ 1,000 บาท ไปก่อน ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวที่ยั่งยืนยังไร้ทิศทาง ขณะที่เรื่องยางพาราและข้าว ใน สต๊อก ที่สังคมสงสัยว่าแท้จริงเกิดอะไรขึ้นกับสินค้าเกษตรทั้ง 2 ชนิด วันนี้ก็ยังมืดมน ไร้ความกระจ่าง แม้แต่ยางพาราที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงเกษตรฯโดยตรงที่ท่านรัฐมนตรีเกษตรฯสั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงประเด็นที่สังคมสงสัยยางในสต๊อก 2.1 ตัน ที่มีข่าวว่ามันเน่าเสียเหลือของดีเพียงร้อยละ 30 ถึงขณะนี้ไม่มีความกระจ่างแต่อย่างใด แถมยังมีข่าว่า ทางรัฐบาลเทขายให้กับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เพียงกิโลกรัมละ 60 กว่าบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้มีเอกชนจีนมาติดต่อขอซื้อถึงกิโลกรัมละ 72 บาท แต่ไม่ยอมขาย มาวันนี้น่าจะถึงเวลาที่ท่านรัฐมนตรี จะสร้างความกระจ่างให้กับสังคมว่าเกิดอะไรขึ้น
นี่ยังไม่รวมถึงนโยบายการแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ที่อยู่ในส่วนของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. เพราะวันนี้ ท่านเลขา ส.ป.ก. “วีระชัย นาควิบูลย์วงศ์” ออกมาบ่นยอมรับงึมงำว่าแก้ยาก เพราะที่ดินส่วนใหญ่ครอบครองโดยกลุ่มอิทธิพล ปัดติโถๆ หัวยัง “งึกๆงักๆ” ขนาดนี้ แล้วหางจะขนาดไหน ส่วนบางกรมที่หวังจะให้แก้ปัญหายางพารา วันนี้คงลำบากเพราะข่าวว่ามัวแต่ไปยุ่งกับปัญหาเล็กๆน้อยๆจนลืมเรื่องใหญ่ กับแค่เก้าอี้ประจำตำแหน่งราคาถูกนั่งไม่เต็มดูด ยังไปบี้ลูกน้องแทบตาย ต้อง ซื้อเก้าอี้ตัวใหม่ราคาค่าตัวกว่า 45,000 บาท วุ่นวายต้องให้ข้าราชการคนหนึ่งในต่างจังหวัดจัดหาให้ถึงจบ วันนี้ต้องบอกว่าหมดหวังแล้วหละพี่น้องชาวไทย งานนี้ท่านรัฐมนตรี น่าจะถึงเวลาปรับแผนการทำงานครั้งใหญ่ไม่ใช่ตั้งรับปรับแผนตามตามกระทรวงอื่น โดยเฉพาะด้านประชาสัมพันธ์อย่าเพียงแค่ตั้งกอง บก. ให้ประชาสัมพันธ์ของแต่ละหน่วยงาน ทุกกรม กอง เอาข้อมูลมากอง ในส่วนกอง บก. หวังตั้งธงให้กระจอกข่าวในกระทรวงดึงเอาข้อมูลไปเขียน ตามทิศทางที่กระทรวงอยากเป็น แค่คิดก็ผิดแล้ว
แว่วว่างานนี้ มีการประเมินจากผู้ใหญ่ในกระทรวงเกษตรฯบางคน ทึกทักเอาว่าหากใช้วิธีนี้เห็นที จะได้ผลเพราะจากที่มีการตั้งรัฐบาลมีรัฐมนตรี ผลงานแทบเข็นไม่ขึ้นแพ้แม้กระทั่ง กระทรวงพาณิชย์ ทำอะไรดูเข้าตาดีไปหมด แต่ดันลืมไปว่า ก่อนที่ท่านรัฐมนตรีว่าการที่ชื่อ “ปีติพงศ์” เข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรี คนที่เขาเข้ามามาคุมงานกระทรวงเกษตรฯ ชื่อ “ฉัตรชัย” ที่วันนี้ไปนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่ากระทรวงกระทรวงพาณิชย์ ที่เคยทำงานเข้าขากับคนของกระทรวงเกษตรฯเป็นอย่างดี วันนี้ถ้าอยากจะเด่นอย่าดีแต่เต้นตาม นะครับท่าน
“ดอกปีบ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี