'ณรงค์'สั่งสอศ.เพิ่มสัดส่วนเด็กอาชีวะ
วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557, 17.15 น.
Tag :
17 พ.ย. 57 พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการผลิตกำลังคนด้านอาชีวศึกษา เพื่อรองรับความต้องการแรงงานฝีมือในการพัฒนาประเทศ ว่า ตนให้ความสำคัญกับการเรียนอาชีวศึกษา เพราะเห็นว่าเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ จึงได้มีนโยบายให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) เพิ่มสัดส่วนนักเรียนสายอาชีวศึกษาต่อสายสามัญให้สูงขึ้น ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 36:64 แต่ในปีการศึกษา 2558 จะต้องเพิ่มสัดส่วนเป็น 40:60 และในปีถัดไปอาจขยับเป็น 45:55 และมีเป้าหมายให้ไปถึง 50:50 ในอนาคต
ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าการที่ สอศ.จัดการศึกษาในระบบทวิภาคีร่วมกับภาคเอกชนและสถานประกอบการ การที่ สอศ.เปิดหลักสูตรพรี-อาชีวะ เพื่อเตรียมความพร้อมและลบภาพลักษณ์ในเรื่องการก่อเหตุละเลาะวิวาท และรวมทั้งการเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีมาร่วมเป็นประธานเปิดงานอาชีวศึกษาทวิภาคีไทย ที่จะขึ้นในวันที่ 27-28 พ.ย.นี้ ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี ตนเชื่อว่าจะเป็นการปลุกค่านิยมและเป็นแรงกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนให้ความสนใจมาเรียนอาชีวะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ด้าน นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) กล่าวว่า ขณะนี้สัดส่วนนักเรียนสายอาชีพต่อสายสามัญ อยู่ที่ 36:64 ซึ่งในปี 2558 ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มสัดส่วนขึ้นอีก 5% เป็น 41:59 จากนั้นในปี 2559 จะเพิ่มสัดส่วนอีก 9% เป็น 50:50 ทั้งนี้ มีแนวโน้มว่า สอศ.จะทำได้ตามแผนที่วางไว้ เพราะที่ผ่านมาจำนวนนักเรียนเข้าศึกษาต่อสายอาชีพลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ในปี 2557 สอศ.สามารถทำให้จำนวนนักเรียนที่เข้าเรียนต่ออยู่คงที่ ไม่ลดลงเหมือนปีที่ผ่านๆ มาจึงมั่นใจว่าในปี 2558 สอศ. จะสามารถทำให้นักเรียนมาเรียนต่ออาชีวะเพิ่มมากขึ้นได้ ซึ่งไม่เฉพาะแต่เด็กในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เท่านั้น แต่จะรวมถึงเด็กในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ด้วยซึ่งตั้งเป้าว่าจะเพิ่มจำนวนนักเรียน ปวส. ให้เพิ่มขึ้น 11%
“เรามีช่องทางที่คิดว่าจะทำให้จำนวนนักเรียนมาเรียนต่ออาชีวะเพิ่มมากขึ้นหลายโครงการ เช่น โครงการอาชีวะ 1 อำเภอ 1 แห่ง ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 12 แห่ง จะเป็นจุดที่เพิ่มจำนวนนักเรียนอาชีวะมากขึ้นจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีโครงการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี มีเด็กร่วมโครงการแล้วกว่า 40,000 คน และในปี 2558 จะเพิ่มมากขึ้นไปอีก ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถดึงเด็กมาเรียนเพิ่มขึ้นได้เพราะทำให้เด็กทำงานเป็น มีงานทำ และมีรายได้ดีในอนาคต ขณะเดียวกันจะมีการจัดอบรมระยะสั้นให้แก่ผู้ที่อยู่ในวัยแรงงานที่ทำงานอยู่แล้ว จากปีที่ผ่านมาเข้าอบรมแล้วประมาณ 8.9 แสนคน เป็น 1.5 ล้านคนในปี 2558 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการกำลังคนของภาคอุตสาหกรรม เพราะจะให้รอแต่การผลิตเด็กอาชีวะอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ และไม่ทันกับความต้องการ” เลขาธิการ กอศ. กล่าว