พลทหารยาบ้าหนีไม่รอด
แฉรับจ้างขนหลักล้าน
ตร.จับเค้นโยงแก๊งยี่เซ
มีความคืบหน้าการไล่ล่าจับกุมคนร้ายแต่งชุดลายพรางคล้ายทหาร ขับรถยนต์ตู้โตโยต้าสีบรอนซ์เงิน ติดชื่อข้างรถอ้างว่าเป็นทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 7(พล.ร.7) ทะเบียนทหารเลขที่ 9912 แหกด่านตำรวจแพร่ธรรมาราม สภ.เด่นชัย จ.แพร่ ก่อนทิ้งรถหลบหนีไป ซึ่งจากการตรวจสอบรถตู้คันดังกล่าวพบว่าใช้ป้ายทะเบียนตรากงจักรปลอม ภายในพบยาบ้า 1.6 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 150 กิโลกรัม มูลค่าของกลางราว 325 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 17 พฤศจิกายน มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว คือ พลทหารวิชัย รักษ์คีรีเขต อายุ 22 ปี สังกัดกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 17(ร.17 พัน.4) ค่ายขุนจอมธรรม อ.เชียงคำ จ.พะเยา ที่อยู่ตามบัตรประชาชน เลขที่ 210 หมู่ 4 ต.เชียงบาน อ.เชียงคำ จ.พะเยา และภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 9 ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย โดยจับกุมได้ที่บริเวณรอยต่อบ้านดงยาง ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ และบ้านบ่อแก้ว ต.ไทรย้อย อ.เด่นชัย จ.แพร่ ห่างจุดเกิดเหตุราว 20 กิโลเมตร พร้อมคุมตัวไปสอบสวน
ต่อมาเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน พนักงานสอบสวน สภ.เด่นชัย นำโดย พ.ต.อ.ประยูร ชำนาญคง ผกก.สภ.เด่นชัย ได้นำตัว พลทหารวิชัย มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางการคุ้มกันอย่างแน่นหนา โดยมีการทำแผนฯรวม 4 จุด ตั้งแต่จอดเติมน้ำมันที่ปั้มน้ำมัน ปตท.กาดแม่คำแป๋ อ.เมืองแพร่ แหกด่านสกัดเจ้าหน้าที่ป้อมตำรวจเด่นชัย และบริเวณหน้าร้านกาแฟดอยช้าง ก่อนลงรถหลบหนี เดินลัดเลาะป่าไปโผล่ที่บริเวณด่านเปาปมดงยาง ต.ดงยาง อ.วังชิ้น รอยต่อ จ.สุโขทัย และถูกจับกุมได้เมื่อเวลา 03.00 น.เมื่อคืนที่ผ่านมา
พลทหารวิชัย รับสารภาพว่า รับจ้างขนยาบ้าดังกล่าวด้วยเงินค่าจ้าง 1.6 แสนบาท โดยก่อนหน้านั้นทำมาแล้ว 2 ครั้ง โดยนำส่งให้กับเอเย่นต์แถวๆพระราม 2 กทม. ส่วนครั้งนี้ได้รับการจ้างวานอีกด้วยค่าจ้าง 1.6 ล้านบาท ผ่านด่านตรวจเจ้าหน้าที่มาได้เพราะอำพรางรถทหาร ส่วนครั้งนี้ระหว่างหลบหนีได้โทรศัพท์ ไปให้น้องชาย วัย 16 ปี ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำแดง ทะเบียน 1 กฆ 2315 เชียงราย ขับจาก จ.พะเยา มารับ และเกิดหลงทาง ทำให้ถูกจับกุมได้ในที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวน้องชายของพลทหารวิชัย ไว้ดำเนินคดีด้วย
ด้าน พล.ต.ต.ภานุเดช บุญเรือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด(ผบก.ภ.จว.) แพร่ กล่าวว่า สำหรับยาบ้าล็อตนี้น่าจะเป็นของเครือข่ายชนเผ่ามูเซอกลุ่มปู่นาโก่ของตัวการใหญ่ คือ จงอย ปู่นาโก่ และเครือข่ายนาพลยี่เซ นักค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยจากการสืบสวนและคำรับสารภาพ ยืนยันว่าไม่มีคนในเครื่องแบบ เป็นคนบงการแน่นอน และเชื่อได้ว่าเป็นของชนเผ่ามูเซอที่มักจะลักลอบขนยาบ้า ผ่านด่านชายแดนรอยต่อไทยจาก จ.เชียงราย เพื่อนำส่งให้กับเอเย่นต์ เนื่องจากหมู่บ้านที่พลทหารวิชัย อาศัยนั้นเป็นชาวเขาเผ่ามูเซอ และมีอาชีพรับจ้างขนยาบ้า
“เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2554 พี่ชายพลทหารวิชัย ก็ถูกจับกุมข้อหาขนยาบ้า 34,000 เม็ด ที่ด่านสบปราบ จ.ลำปาง ส่วนยาไอซ์ที่จับกุมได้ 150 กิโลกรัมนั้น เป็นการจับกุมมากที่สุดในรอบ 15 ปี หลังจากจับกุมเครือข่ายยาไอซ์ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ต้องหาทิ้งยาไอซ์ไว้ 100 กิโลกรัม แล้วหลบหนีไป 2 ราย เชื่อว่ายาไอซ์ที่จับได้ในครั้งนี้เป็นเครือข่ายเดียวกัน เพราะลักษณะหีบห่อคล้ายกันมาก” ผบก.ภ.จว.แพร่กล่าว
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลี้ จ.ลำพูน ได้คุมตัว พระธนายุทธ พลเสน อายุ 45 ปี มาทำการสอบสวน หลังถูกจับกุมได้เมื่อคืนวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พร้อมของกลางยาบ้า 120,000 เม็ด กับเงินสดประมาณ 600 บาท โดยชุดจับกุม เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 16 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลี้ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร หมวดปืนเล็กที่ 2 กองร้อยเฉพาะกิจรักษาความสงบเรียบร้อยที่ 2 ตั้งด่านตรวจยาเสพติดที่บ้านวังดิน อ.ลี้ ได้มีรถทัวร์สายกรุงเทพฯ-จอมทอง ขับมาจาก อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ มุ่งหน้าไปกรุงเทพฯ ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญาณหยุดรถเพื่อทำการตรวจค้นตามปกติ เมื่อขึ้นไปบนรถทัวร์พบพระธนายุทธ ท่าทางมีพิรุธ จึงขอตรวจค้นภายในย่ามก็พบยาบ้าจำนวนดังกล่าวบรรจุห่อไว้อย่างดี จึงควบคุมตัวมาสอบสวน
เบื้องต้นพระธนายุทธ ยังให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าได้รับของมาจากพระรูปหนึ่งชื่อ แดง อ้างว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับไว้หล่อพระ โดยจะนำไปส่งปลายทางที่วัดพรหม จ.สิงห์บุรี อย่างไรก็ตามเจ้าหน้ายังไม่ปักใจเชื่อ และได้นำตัวพระยุทธนา ไปสอบสวนที่ สภ.ลี้ เพื่อขยายผลถึงแหล่งที่มาของยาบ้าต่อไป
อีกด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 08.00 น.วันเดียวกัน ร.ต.ท.สุธรรม เปลียวดี ร้อยเวร สภ.นาขยาด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ที่บ้านเลขที่126 ม.6 ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเพียงกองเลือดที่บริเวณประตูและตัวบ้านมีร่องรอยถูกระสุนปืนกว่า 10 จุด ทราบชื่อคนเจ็บ คือ ด.ต.ประทีป อุ่นเสียม อายุ 46 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม ปฏิบัติงานในชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.ควนขนุน ถูกยิงเฉี่ยวศีรษะ 3 แผล บาดเจ็บสาหัส ญาตินำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุง
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่ ด.ต.ประทีป กำลังเตรียมตัวจะออกไปปฏิบัติงานได้มีคนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน ขับรถยนต์เก๋งถอยหลังเข้ามาจอดในรั้วบ้าน ก่อนที่หนึ่งในคนร้ายจะลงมาจากรถ เดินไปหานางนุชนาถ ภรรยาของ ด.ต.ประทีป พร้อมกับถามหา ด.ต.ประทีป จากนั้นนางนุชนาถ จึงตะโกนเรียกสามีบอกว่ามีคนมาหา เมื่อ ด.ต.ประทีป เดินออกมาหน้าบ้าน คนร้ายอีกคนได้ลงจากรถ พร้อมกับใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่ ด.ต.ประทีป ทันที แต่ ด.ต.ประทีป กระโดดหนีและวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน คนร้ายจึงกระหน่ำยิงตามเข้าไปภายในตัวบ้าน ก่อนที่จะวิ่งขึ้นรถขับหลบหนีไป
เบื้องต้นสันนิษฐานว่าสาเหตุน่าจะมาจากการปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดของ ด.ต.ประทีป ซึ่งในช่วงสัปดาห์นี้ชุดปราบปรามยาเสพติดของ สภ.ควนขนุน ซึ่งมี ด.ต.ประทีป เป็นหนึ่งในชุดจับกุม มีผลงานจับกุมทั้งอาวุธปืนและยาเสพติดหลายรายการ อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับนักค้ายาเสพติด จึงบุกมายิงล้างแค้น ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจพอจะทราบเบาะแสของคนร้าย และเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี