ฝนถล่มใต้จมบาดาล
พัทลุง-ตรังเจอน้ำป่า
สงขลาผวาดินสไลด์
นราฯสั่งพร้อมอพยพ
จากสภาพฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้หลายจังหวัดภาคใต้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรเดือดร้อนหลายร้อยหลังคาเรือนผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมหลายจังหวัดภาคใต้เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนว่า ที่จ.พัทลุงฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดน้ำท่วมหนัก 3 อำเภอคือ อ.ควนขนุน ศรีนครินทร์และศรีบรรพต ปริมาณน้ำในฝายชลประทานท่าแนะ อ.ศรีบรรพต มีระดับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลมาสมทบกับปริมาณน้ำฝนที่ตกในพื้นที่ ท่วมถนนสายทุ่งข่า-หัสคุณ หมู่ 1 ต.ตะแพน อ.ศรีบรรพต ระดับน้ำเฉลี่ย 20-30 เซนติเมตร
ขณะที่กระแสน้ำไหลเชี่ยวกัดเซาะคันคลองพิกุลทอง บริเวณวัดล้อ หมู่ที่ 9 และวัดท้ายวัง หมู่ที่ 10 ขาด 2 จุด ทำให้น้ำท่วมบ้านชาวบ้านในอ.ควนขนุน กว่า 100 ครัวเรือน ถนนสายสี่แยกโพธิ์ทอง- ศรีบรรพต มีน้ำไหลผ่านสูง 50 เซนติเมตรรถเล็กผ่านไม่ได้ ขณะที่โรงเรียนวัดไทรโกบที่ต.ชะม่วง อ.ควนขนุนต้องปิดเรียน
ฝนถล่มนาโยง3วันจม80ครัวเรือน
ส่วนที่จ.ตรัง ชาวบ้านประสบภาวะน้ำท่วมระลอกสอง หลังฝนตกหนักติดต่อกัน 3 วัน โดยน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลหลากเข้าท่วมที่ลุ่มใน 3 ตำบลของอ.นาโยงและ 1 ตำบลของอ.เมืองตรัง ระดับน้ำสูง 20-30 เซนติเมตร โดยเฉพาะบริเวณทางเข้าสำนักสงฆ์ควนสงฆ์ระดับน้ำสูง 40-50 เซนติเมตร รถเล็กไปมาลำบาก นอกจากนี้ พื้นที่หมู่ที่ 8 บ้านโคกโคน ประสบปัญหาน้ำท่วมบริเวณหลังโรงเรียนเพาะปัญญาสูง 20-30 เซนติเมตร เนื่องจากอยู่ติดกับคลองนางน้อย และเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน 80 ครัวเรือน
กระแสสินธุ์เฝ้าระวังดินถล่ม
ที่จ.สงขลา ฝนตกต่อเนื่อง ทำให้พระและชาวบ้านหมู่1 บ้านทุ่งบัว อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา ต้องเฝ้าระวังและสังเกตการณ์น้ำที่ไหลลงมาจากภูเขาตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเกรงว่าอาจเกิดดินไหลลื่นลงมาทับโบสถ์ที่อยู่ติดกับเชิงเขา เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกสะสมและดินชุ่มน้ำ เสี่ยงเกิดดินจากภูเขาไหลลื่นตลอดเวลา ซึ่งช่วงปลายปีที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุดินไหลลื่นลงมาจากภูเขา ทำให้พระอุโบสถและเมรุได้รับความเสียหาย สำหรับต.เกาะใหญ่ อ.กระสินธุ์เป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มของจ.สงขลา เนื่องจากเป็นเนินเขาและบ้านเรือนชาวบ้านส่วนใหญ่อยู่เชิงเขา โดยมีจุดเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังรวม 8 จุด ใน 4 หมู่บ้านคือ ม.1 ม.4 ม.6 ม.9 ซึ่งมักจะเกิดเหตุการณ์ดินไหลลื่นทุกปี
น.โก-ลกล้นตลิ่งท่วมวงกว้าง
สภาวะฝนที่ตกกระจายปกคลุมพื้นที่ 13 อำเภอ ของจ.นราธิวาส เป็นเวลา 2-3 วันติดต่อกัน โดยยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด โดยเฉพาะอ.สุคิริน แว้งและสุไหงโก-ลก ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลกมีระดับสูงและล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่แนวริมตลิ่ง ในอ.สุไหงโก-ลกคือ ชุมชนท่าประปา ชุมชนท่าโรงเลื่อย และชุมชนหัวสะพาน เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก มีประชาชนอาศัยอยู่กว่า 70 หลังคาเรือน ทั้งนี้ ระดับน้ำท่วมสูงโดยรวมประมาณ 20-40 เซนติเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากและมีแนวโน้มขยายวงกว้าง หากฝนยังตกต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ประกาศเตือนให้ประชาชนเตรียมพร้อมอพยพสิ่งของไว้ในที่ปลอดภัย ช่วงเฝ้าระวังปลายเดือนพฤศจิกายน
ทหารพร้อมอพยพ-เปิดศูนย์ช่วยเหลือ
วันเดียวกัน พ.ท.พงศ์พัฒน์ ห้องสีหลาก ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 ส่งกำลังพร้อมรถบรรทุกทหารไปประจำที่ชุมชนท่าประปา ซึ่งเป็นจุดที่มีน้ำท่วมขังหนักสุด พร้อมช่วยเหลือและอพยพประชาชน หากเกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน ขณะที่นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก สั่งเปิดศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยที่โรงเรียนเทศบาล4 และประสานประธานชุมชนส่งข้อมูลแจ้งเตือนประชาชนและเฝ้าระวังสถานการณ์ช่วงนี้ตลอด 24 ชั่วโมง
พายุงวงช้างถล่มหมู่บ้านเมืองนครฯ
ขณะที่จ.นครศรีธรรมราช นอกจากฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้น้ำท่วมหลายพื้นที่แล้ว ช่วงเช้าวันเดียวกัน เกิดพายุงวงช้างพัดกระหน่ำเข้าหมู่บ้านต.ปากนคร อ.เมือง ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่หมู่ 1 และหมู่ 4 เบื้องต้นพบบ้านเรือนชาวบ้านเสียหายกระเบื้องหลังคาปลิว พังเสียหาย 30-40 หลัง ชาวบ้านเร่งขนย้ายสิ่งของอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยหนีตายโกลาหล มีหลายคนได้รับบาดเจ็บจากสิ่งของที่ปลิวกระจาย ขณะที่สภาพท้องฟ้ามืดครึ้ม มีฝนโปรยปรายตลอดเวลา ชาวบ้านต่างหวาดผวาน้ำท่วมซ้ำอีกระลอก หลังช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาถูกน้ำท่วมไปแล้วครั้งหนึ่ง
เตือนใต้เสี่ยงฝนหนัก-ดินโคลนถล่ม
วันเดียวกัน ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) ประกาศแจ้วว่า วันที่ 20-21 พฤศจิกายน อาจเกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม ในพื้นที่ภาคใต้บริเวณ จ.พัทลุง จ.สงขลา จ.ตรัง และ จ.สตูล ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ยังประกาศเตือนภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน ตั้งแต่จ.นครศรีธรรมราชเป็นต้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี