23 พ.ย.57 นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา 5 ธันวาคม 2557 เพื่อเป็นเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระทรวงเกษตรฯ กำหนดจัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับการใช้น้ำ ให้ประชาชนได้รับทราบถึงผลสำเร็จของการดำเนินงาน ตามแนวพระราชดำริ และพระราชกรณียกิจด้านการแสวงหาแหล่งน้ำ และการบริหารจัดการน้ำ
ทั้งแหล่งน้ำบนดิน แหล่งน้ำใต้ดิน และการทำฝนหลวง การส่งเสริม เผยแพร่ และถ่ายทอดเทคโนโลยีการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับระบบการผลิตพืช - สัตว์ และอุตสาหกรรมเกษตรที่เกี่ยวเนื่อง โดยทุกหน่วยงานในสังกัดได้ร่วมจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้แนวคิด "ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ปวงประชาถวายพ่อของแผ่นดิน" ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. - 6 ธ.ค.57 ที่บริเวณด้านหน้ากระทรวงเกษตรฯ และท้องสนามหลวง ซึ่งจะนำเสนอนิทรรศการมีชีวิตในด้านดินและน้ำ รวมถึงการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าที่เป็นผลผลิตจากโครงการพระราชดำริต่างๆ
นอกจากการจัดงานในช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม แล้ว ทุกหน่วยงานในกระทรวงเกษตรฯ จะหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพ ในการนำเสนอหรือเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระองค์ในทุกๆ มิติ และนำเสนอให้ประชาชนเห็นเป็นรูปธรรมได้ว่าจะประหยัดน้ำ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญได้อย่างไร ตลอดทั้งปี 2558 เพื่อเป็นกระตุ้นเตือนให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญต่อสถานการณ์ความเสี่ยงการขาดแคลนน้ำในปัจจุบัน และรณณรงค์ให้ทุกคนตระหนักถึงการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า และความยากลำบากในการได้มาของน้ำของแต่ละหยด เพื่อให้เกิดการสร้างความร่วมมือของคนในชาติ ให้เห็นถึงแนวทางการใช้ประโยชน์จากน้ำอย่างรู้คุณค่า และมีประสิทธิภาพสูงสุด และการปลูกฝังแนวคิดด้านการอนุรักษ์น้ำ และการใช้ประโยชน์จากน้ำอย่างรู้คุณค่าให้กับเยาวชน เพื่อเป็นรากฐานในการพัฒนาชาติอย่างยั่งยืน
โดยกิจกรรมที่เป็นไฮไลต์ที่กระทรวงเกษตรฯ จะดำเนินการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ตลอดทั้งปี 2558 อาทิ การใช้น้ำในการทำฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำระบบหมุนเวียนน้ำ และบำบัดคุณภาพน้ำตามธรรมชาติ โดยไม่มีการระบายน้ำที่ผ่านการเลี้ยง และสารอินทรีย์ลงสู่สิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์น้ำที่ใช้น้ำน้อย อาทิ การเลี้ยงปลาดุก การเลี้ยงกบ การทำระบบ Zero Waste ในฟาร์มปศุสัตว์ โดยบำบัดน้ำเสียจากฟาร์มปศุสัตว์ และนำน้ำกลับมาใช้ประโยชน์ เช่น ผลิตกระแสไฟฟ้า เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม หรือนำน้ำที่ผ่านระบบบำบัดน้ำเสียแล้วกลับไปใช้ในฟาร์มใหม่ การแปรรูปจากน้ำสาวไหม เช่น สบู่โปรตีนไหม ผ้าปิดแผล เครื่องสำอาง เป็นต้น การปลูกพืชใช้น้ำน้อยแทนการปลูกข้าว โดยเฉพาะพื้นที่การปลูกข้าวในภาคกลาง
ขณะที่ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน ระบุว่า ขณะนี้ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย เริ่มเข้าสู่ฤดูแล้งแล้ว ปริมาณน้ำในเขื่อนหลายแห่งยังอยู่ในเกณฑ์น้อย จึงขอเตือนทุกภาคส่วนให้ใช้น้ำอย่างประหยัด ทั้งนี้ จากการติดตามสภาพฝนตั้งแต่ในช่วงต้นฤดูฝนปี 2557 เป็นต้นมา พบว่า ทั่วทุกภาคของประเทศไทย มีปริมาณฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมถึงภาคตะวันตก ส่งผลให้ปริมาณน้ำต้นทุนที่จะนำมาใช้ในช่วงฤดูแล้งนี้ อยู่ในเกณฑ์น้อย
นอกจากนี้ ยังมีอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย ที่คณะกรรมการจัดการชลประทาน (JMC) ได้มีการประชุม และมีมติเห็นชอบให้งดทำนาปรังในพื้นที่ของแต่ละโครงการฯ ดังนี้ ภาคเหนือ ในพื้นที่เขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ ภาคกลาง ในพื้นที่ของเขื่อนทับเสลา จ.อุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบไปด้วย พื้นที่ท้ายเขื่อนห้วยหลวง จ.อุดรธานี เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น และเขื่อนลำตะคอง เขื่อนมูลบน เขื่อนลำแซะ จ.นครราชสีมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี