23 พ.ย.57 ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ พล.ต.ต.กาญจน์พศ ชัยศิริชาญพนา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยชุดปฎิบัติการปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ แถลงข่าวการจับกุมการปฎิบัติการขยายผลการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติด ที่สั่งยาบ้าข้ามชาติจาก สปป.ลาว เข้ามาขายในภาคอีสาน จำนวน 4 ราย ได้แก่ นายเทียม พันที , นางชมพู พันที , น.ส.ช่อผกา พันที และนายพีรเอก ครองยุทธ พร้อมอายัดตัวนักโทษชาย เอกชัย ครองยุทธ และนักโทษชาย เอกชน จันทร์พรหม ทั้งหมดเป็นชาว จ.อุบลราชธานี
หลังชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ สามารถล่อซื้อยาบ้า ก่อนขยายผลจนสามารถจับกุมเครือข่ายยาบ้า ซึ่งสั่งซื้อยาบ้าจาก สปป.ลาว โดยมีนักโทษในเรือนจำรัตนบุรี เป็นผู้สั่งการ และจากการตรวจสอบพบว่า มีเงินหมุนเวียนกว่า 300 ล้านบาท จึงเร่งสืบสวนทางการเงิน และตรวจยึดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด ประกอบด้วย บ้านและที่ดิน จำนวน 1 หลัง รถยนต์ จำนวน 4 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 5 คัน เครื่องใช้ไฟฟ้า อาทิ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องเสียง รวมทรัพย์สินที่ยึดในครั้งนี้ กว่า 1,608,900 ล้านบาท
พล.ต.ต.กาญจน์พศ กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (22 พ.ย.) พ.ต.อ.สมพจน์ ขอมปรางค์ รอง ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยหมายศาลจังหวัดสุรินทร์ เข้าตรวจค้นและจับกุม นายเทียม พันที อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 154 หมู่ 2 ต.ขามใหญ่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี นางชมพู พันที อายุ 45 ปี น.ส.ช่อผกา หรือ ผิ่ง พันที อายุ 20 ปี พักอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน และเข้าจับกุ่มนายพีรเอก หรือ สุทธินาถ ครองยุทธ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229 หมู่13 ต.สวาท อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร
จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค.57 ชป.ปส.ภ.จว.สุรินทร์ ได้ร่วมกันทำการจับกุม นายเกื้อกูล นัยนิตย์ พร้อมของกลาง ยาบ้า 125 เม็ด โดยกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ซึ่งจากการจับกุมได้ทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลการจับกุม ทราบว่าเครือข่ายการค้าได้ติดต่อสั่งซื้อยาบ้ามาจาก สปป.ลาว โดยมีนักโทษในเรือนจำรัตบุรี เป็นคนติดต่อสั่งการในการจำหน่ายยาเสพติด และธุรกรรมทางเงิน ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่า เครือข่ายนักค้ามีเงินหมุนเวียนประมาณ 300 ล้านบาท ระหว่าง เดือน ต.ค.56 - 1 มี.ค.57
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า เครือข่ายที่ถูกจับกุมในครั้งนี้มีการทำธุรกรรมทางการเงิน และเบิกเงินออกจากบัญชีในต่างประเทศ จึงได้กำชับให้ชุดจับกุมเร่งขยายผล เพื่อติดตามร่องรอยการโอนเงินทางบัญชีต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามจับกุมและยึดทรัพย์ตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี