ศธ.จ่อรื้อเกณฑ์1อำเภอ1ทุน หนุน3หลักการสำคัญ
วันจันทร์ ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557, 17.51 น.
Tag :
24 พ.ย. 57 นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัดศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ตนได้หารือ กับพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เกี่ยวกับกับการดำเนินการโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 5 โดย รมว.ศึกษาธิการ มอบหมายให้สำนักปลัด ศธ.ไปปรับหลักเกณฑ์การคัดเลือกผู้รับทุนใหม่ เน้นหลักการใน 3 ประเด็น คือ 1. เปิดโอกาสให้เด็กยากจน แต่เรียนดี 2 เน้นให้ทุนในสาขาที่ขาดแคลน และเป็นความต้องการของประเทศ โดยเฉพาะในสายอาชีพ และ 3. เมื่อเรียนจบแล้วให้นำความรู้ที่ได้รับกลับมาทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ โดยตนจะเร่งจัดทำรายละเอียด เปรียบเทียบข้อดี และข้อเสีย รวมถึงอุปสรรคในการดำเนินงานที่ผ่านมา เพื่อเสนอให้ที่ประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. พิจารณาร่วมกันวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ หากที่ประชุมเห็นชอบก็ต้องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เห็นชอบในหลักการ เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์ใหม่ ให้มีผลบังคับใช้ในรุ่นที่ 5 ต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับหลักเกณฑ์ใหม่ในรุ่นที่ 5 นั้น พล.ร.อ.ณรงค์ เห็นว่า อาจจะไม่จำเป็นต้องให้ทุนตามจำนวนอำเภอเช่นเดิม เพราะที่ผ่านมาพบว่าเด็กไม่สามารถสอบรับทุนได้ครบทุกอำเภอ หรือบางอำเภอ มีเด็กเก่งมากกว่า 1 คน แต่กลับเลือกได้เพียงคนเดียว ทั้งที่ความจริง เด็กเก่งควรจะได้รับการส่งเสริม ทำให้ต้องเปิดรับสมัครหลายรอบ สุดท้ายก็ไม่สามารถให้ทุนได้ไม่เต็มตามจำนวนที่ตั้งไว้ ขณะเดียวกัน การกำหนดให้เด็กไปเรียนในประเทศที่ไม่ใช้ภาษาอังกฤษ ก็เป็นปัญหา เด็กต้องใช้เวลาเรียนภาษาของในประเทศเจ้าของภาษาที่ไปเรียนเป็นเวลานาน หรือ บางคนเรียนไม่ไหว ปรับตัวไม่ได้ก็ต้องกลับมาเรียนต่อที่ประเทศไทย ซึ่งประเด็นนี้ รมว.ศึกษาธิการ ก็ขอให้ไปดูรายละเอียด ซึ่งต่อไปอาจจะเปิดโอกาสให้เรียนในประเทศที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษ หรือให้ทุนเรียนในประเทศไทยได้ด้วย ทั้งนี้รัฐมนตรีว่าการศธ. ยังเน้นให้ส่งเสริมเด็กให้มาเรียนในสายอาชีพมากขึ้น โดยจะต้องจูงใจให้ทุนการศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ต่อเนื่องจนถึงระดับปริญญาตรี ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อย่างไรก็ตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวจะไม่กระทบกับเด็กที่รับทุนในรุ่นที่ 1-4 โดยทั้งหมดยังคงได้รับทุนต่อเนื่องจนจบการศึกษา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน ได้ดำเนินการมาแล้ว 4 รุ่น โดยรุ่นที่ 1 เริ่มเมื่อ พ.ศ. 2547 มีผู้รับทุนจำนวน 921 คน รุ่นที่ 2 ดำเนินการเมื่อ พ.ศ.2549มีผู้รับทุนจำนวน 915 คน รุ่นที่ 3 เริ่มดำเนินการ พ.ศ.2555 มีผู้รับทุนจำนวน 689 คน และรุ่นที่ 4พ.ศ.2556-2557 มีผู้รับทุนจำนวน 571 คน รวมมีผู้รับทุนทั้ง 4 รุ่น จำนวน 3,096 คน