ฝนหมดไป หนาวกำลังเข้ามา ฤดูกาลท่องเที่ยวได้เริ่มขึ้น แล้ว ถ้ายังไม่รู้จะไปเที่ยวไหนในช่วงหนาวนี้ แนะนำทริปดีๆ ของสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย นั่นคือ “โครงการเกษตรทัศนศึกษา” ไปยังโครงการหลวง สัมผัสลมหนาว ชมของดีที่เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ในรูปแบบของการศึกษาดูงานด้านการเกษตรโดยเฉพาะพืชเฉพาะถิ่นที่มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่เมืองปาย และถือโอกาสเดียวกันไปพักผ่อนอีกด้วย
นายดลมนัส กาเจ นายกสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อถึงเหมันตฤดู คนไทยและชาวต่างชาติมักจะนึกถึงการดื่มด่ำความหนาวเหน็บของอากาศตามดอยต่างๆ ในภาคเหนือหรือตามยอดภูในภาคอีสาน และสถานที่ถูกกล่าวขานของนักท่องเที่ยวที่นิยมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ไม่มีใครปฏิเสธเมืองปาย ของ จ.แม่ฮ่องสอน ถึงขนาดวัยรุ่นบางคนพูดเสียงเดียวกันว่า “ก่อนตาย ขอไปปายสักครั้ง!” นั่นหมายถึงว่า มนต์เสน่ห์ของเมืองปาย ใครๆ ก็ต้องการสัมผัส โดยเฉพาะในฤดูหนาว เพื่อชมทิวทัศน์อันสวยงาม ไม่จะเป็นร้านกาแฟริมทาง “คอฟฟี่ อิน เลิฟ” ที่มีทิวทัศน์อันสวยงาม สะพานประวัติศาสตร์ หมู่บ้านยูนนาน รวมถึงถนนคนเดิน เป็นต้น
นอกจากนี้แล้วในระหว่างการเดินทาง ที่ผ่านเส้นทางอันคดโค้งกว่า 760 โค้งก่อนถึงปายนั้น มีสถานที่ระหว่างทางที่เป็นจุดชมทิวทัศน์อันสวยงามของขุนเขาที่ถูกอ้อมโอบด้วยทะเลหมอกขาวโพล้นในยามเช้า สร้างสีสันที่น่าสัมผัสยิ่ง โดยเฉพายอกดอยกิ่วลม ในอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ใน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ น้ำร้อน และอีกหลายๆแห่ง
“ที่จริงเสน่ห์ของเมืองปาย ไม่อยู่เพียงความสวยงามของธรรมชาติและทิวทัศน์ หากแต่มองในภาคการเกษตร มีพืชที่อยู่ควบคู่กับวิถีชีวิตของชาวบ้านที่น่าสนใจมากมายเช่นกัน ที่สำคัญเป็นพืชมีอยู่ที่ปายเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นมักสูโรด ซึ่งเป็นพืชสวนครัวที่กำลังจะสูญพันธุ์ ถั่วลิสงดำ ถั่วลันเตาหวาน ดอกหมิวเหมี่ยว ซึ่งมีแห่งเดียวในประเทศไทย ที่บ้านป้าแหลง ศูนย์รวมของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรใน อ.ปาย ที่สำคัญที่บ้านป้าแหลง ไม่เพียงแต่จะมีพืชผักที่ไม่มีใครเหมือนแล้ว ยังแหล่งรวบรวมของการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ที่มีชื่อเสียงของเมืองปาย คือ น้ำพริกคั่วทราย น้ำไซเดอร์จากมะขามป้อม เป็นต้น” นายดลมนัส กล่าว
จากความหลากหลายของเมืองปาย ทางสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย จะจัดโครงการเกษตรทัศนศึกษาไปยัง จ.เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน เน้นในพื้นที่ปาย ระหว่างวันที่ 19-22 ธันวาคม 2557 นี้เพื่อไปชมของดีที่เมืองปาย และเรียนรู้ในการผลิตน้ำพริกคั่วทราย และชมขั้นตอนการผลิตน้ำไซเดอร์จากมะขามป้อม
นอกจากนี้จะพาไปชมแปลงเกษตรอินทรีย์ ที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ มีทั้งผักทองญี่ปุ่น ฟักบัตเตอร์นัท เทอร์นิพ เรคคอลัน แรดิชชิโอ กะหล่ำรูปหัวใจ กะหล่ำปลีแดง การเลี้ยงกระต่ายเพื่อขายเนื้อ ไก่งวง ไก่ฟ้า เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังจะพาไปตะลุยแหล่งปลูกสตรอเบอรี่ที่ อ.กัลยาณีวัฒนา จ.เชียงใหม่ และจะถือโอกาสนี้จะพาไปช็อปปิ้งที่ถนนคนเดินของเมืองปายด้วย
“การที่สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย จัดโครงการเกษตรทัศนศึกษาในครั้งนี้ โปรแกรมหลักๆ คือจะพาไปชมแปลงเกษตรที่เป็นพืชเมืองหนาวในสถานที่ต่างๆ ขณะเดียวกันจะแวะชมและสัมผัสความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงทุกแห่งใน อ.ปาย และริมทางของ จ.เชียงใหม่ด้วย หากสนใจสอบถามที่สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย 0-2940-5425-6 และ 08-6340-1713 รับจำนวนจำกัดครับ” นายกสมาคมสื่อมวลชนเกษตรฯ กล่าวทิ้งท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี