26 พ.ย.57 พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ได้มีการหารือการเดินหน้าโครงการ 1 อำเภอ 1 ทุน รุ่นที่ 5 โดยเปลี่ยนหลักเกณฑ์การให้ทุนในรุ่นที่ 5 เพื่อให้รัฐบาลได้รับประโยชน์คุ้มค่ากับงบประมาณที่จะต้องเสียไปจากโครงการดังกล่าว โดยการคัดเลือกยังคงเน้นเด็กที่อยู่ในครอบครัวยากจนตามพื้นที่ต่าง ๆ แต่อาจจะไม่กำหนดว่าใน 1 อำเภอจะต้องมีผู้ได้รับทุนเพียง 1 คน หากมีเด็กที่อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะยากจน และสามารถสอบผ่านเกณฑ์ได้ ก็อาจจะมีผู้รับทุนมากกว่า 1 คนใน 1 อำเภอก็ได้ หรือบางอำเภอ หากไม่มีผู้ผ่านเกณฑ์ก็อาจจะไม่มีผู้รับทุนเลย
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวว่า หลักเกณฑ์ที่จะปรับใหม่จะให้ทุนเฉพาะในสายอาชีวศึกษา รวมถึงจะต้องทำสัญญากับเด็กที่รับทุนว่าเมื่อกลับมาจะต้องกลับมาใช้ทุน โดยอาจจะกลับมาทำงานในหน่วยงานของรัฐ แต่สิ่งที่ต้องการคือ อยากให้กลับมาเป็นครูให้กับโรงเรียน หรือสถาบันในประเทศ เพราะเขาได้รับความรู้จากต่างประเทศโดยตรงหากนำมาถ่ายทอดสู่เด็ก ๆ ก็น่าจะเป็นประโยชน์
“การให้ทุนในรุ่นที่ 5 ที่คิดไว้จะมุ่งไปในสายอาชีวะทั้งหมด เพราะที่ผ่านมาสายสามัญมีทุนจากหลายสถาบัน แต่สายอาชีวะแทบจะไม่มี ปัจจุบันเราต้องการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ จึงต้องปรับการให้ทุน และอาจจะไม่ใช่ 1 อำเภอ 1 ทุน ส่วนจะเรียกอะไรยังไม่ได้กำหนด เพราะจะต้องจัดทำหลักเกณฑ์ให้ชัดเจน เสนอให้ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน”
พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวด้วยว่า ทุนดังกล่าว ไม่ได้คัดเลือกเด็กที่เก่งที่สุด แต่ขอให้สอบผ่านเกณฑ์ที่กำหนด เปิดโอกาสให้เด็กได้ไปเรียนในสายอาชีพจากประเทศที่มีความเชียวชาญเรื่องนั้น ๆ โดยตรง เมื่อกลับมาก็มาทำงานในหน่วยงานของรัฐ หรือกลับมาเป็นครู หากเขามีความสามารถเรียนในระดับที่สูงขึ้น ทั้งปริญญาตรี และโท ก็น่าจะสามารถสนับสนุนได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี