27 พ.ย.57 บรรยากาศการลงนามถวายพระพร ที่ศาลาศิริราช 100 ปีโรงพยาบาลศิริราช ได้มีคณะบุคคลจากหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้นำชุมชน คณาจารย์ ครู นักเรียน และนิสิต นักศึกษา ตลอดจนประชาชนทั่วไปทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด พร้อมใจสวมเสื้อสีเหลือง นำพานพุ่มดอกไม้ แจกันดอกไม้ และสิ่งของมงคลมาทูลเกล้าฯถวาย พร้อมลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ยิ่ง ๆขึ้น เจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน เพื่อเป็นมิ่งขวัญของปวงชนตราบนานเท่านาน อาทิ ข้าราชการกรมเสมียนตรา กระทรวงกลาโหม, คณะ อบต.มะขามสูง จ.พิษณุโลก, คณะครู นักเรีย ร.ร.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี, คณะผู้บริหาร ครู ผู้ปกครอง และนักเรียน ร.ร.บ้านไผ่ขุย ต.รังนก จ.พิจิตร, คณะผู้บริหาร ครู นักเรียน ร.ร.ซางตาครู้สคอนแวท์ เขตธนบุรี กทม., เทศบาล ต.ขุนแก้ว จ.นครปฐม, ชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต.ม่วงงาม จ.สงขลา, คณะลูกเสือชาวบ้าน จ.สุราษฎร์ธานี, สำนักพัฒนาสังคม กรุงเทพมหานคร, คณะโรงเรียนทหารม้าศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จ.สระบุรี,
และเวลา 09.00 น. นายสาธิต จันทรังษี (ลุงหมี) ผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง อายุ 52 ปี ได้ปั่นวีลแชร์ออกจากจังหวัดพิษณุโลก เมื่อเวลา 09.09 น. ของวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้เดินทางมาถึง ศาลาศิริราช100 ปี โรงพยาบาลศิริราชแล้ว จากนั้นได้ทูลเกล้าฯถวายแจกันดอกไม้พร้อมเงินสด จำนวน 80,000 บาท
โดยนายสาธิต กล่าวว่า รู้สึกดีใจจนพูดไม่ถูกที่ได้มีโอกาสมาถวายพระพรพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงหายจากพระอาการประชวร ตามที่ได้ตั้งใจไว้ และรู้สึกปราบปลื้มใจที่ได้นำเงิน จำนวน 80,000 บาทซึ่งเป็นเงินที่ประชาชนร่วมสมทบระหว่างการเดินทางเพื่อนำมาทูลเกล้าฯถวาย
"การเดินทางครั้งนี้รวมระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร และใช้เวลาในการเดินทาง 12 วัน ได้รับบาดเจ็บบ้างที่นิ้วมือบวม แต่ก็ไม่ท้อ เพระาะคิดว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านทรงงานเพื่อประชาชน เหนื่อยกว่าเราหลายเท่า ดังนั้น การทำแค่นี้ถ้าเราตั้งใจก็จะต้องทำให้ได้ นอกจากนี้ ยังได้แรงบันดาลใจที่เคยได้รับพระมหากรุณาธิคุณถึงสองครั้ง โดยได้รับการรักษาและรถวิลแชร์พระราชทาน รวมถึงได้รับทุนการศึกษาบุตร ขณะนี้ลูกคนโตเรียนอยู่คณะสัตวแพทย์ ชั้นปีที่ 4 คนที่ 2 เรียนคณะนิติศาสตร์ ม.รามฯ ส่วนคนที่ 3 กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.4 ดังนั้น ผมจึงอยากทำความดีตอบแทนพระองค์ท่านบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่คิดอยากทำมานานแล้วแต่ร่างกายไม่พร้อม เมื่อร่างกายเราแข็งแรงขึ้น จึงได้ปั่นวิลแชร์มาถวายพระพรในวันนี้ และขอให้พระองค์ท่านทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว และอยากให้คนไทยทุกคนรักในหลวงให้มาก ๆเพราะพระองค์ท่านทรงงานเหนื่อยเพื่อคนไทยมามากแล้ว
อนึ่ง นายสาธิต ได้ปั่นรถวีลแชร์ออกจาก จังหวัดพิษณุโลก เมื่อเวลา 09.09 น. ของวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา และได้ปั่นมาตามถนนสายเอเชีย ตลอดเส้นทางที่ลุงหมีปั่นวีลแชร์ผ่าน ได้มีประชาชนให้ความสนใจและตบมือเป็นกำลังใจตลอดการเดินทาง ซึ่งนายสาธิต ได้ใช้แขนที่อ่อนแรงสลับกันปั่นวีลแชร์มาทีละข้าง ด้วยกำลังใจที่เปี่ยมล้นเพื่อที่จะเดินทางมาถวายพระพรตามที่ตั้งใจไว้ โดยนายสาธิต ได้ปั่นวิลแชร์มาถึงดอนเมือง เมื่อวันที่ 25 พ.ย. และพักผ่อน 2 วัน ก่อนที่จะเดินทางมาถวายพระพรในวันนี้
ทั้งนี้ นายสาธิต จันทะรังสี "ลุงหมี" ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของแกนสมอง ซึ่งเป็นชาวบ้านใน ต.ท่าโพธิ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก และเป็นคนไทยคนหนึ่งที่เคยถวายฎีกาขอความช่วยเหลือถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานความช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาล และถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลราชวิถี กรุงเทพมหานคร จนอาการป่วยดีขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รถวีลแชร์พระราชทานอีก1 คัน นายสาธิตจึงตั้งใจว่าชีวิตที่เหลืออยู่นี้จะใช้เพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านให้ถึงที่สุด จึงมุ่งมั่นตั้งใจปั่นวิลแชร์มาถวายพระพรให้พระองค์ท่านทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว
นายสาธิต จันทรังษี (ลุงหมี) ผู้ป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง อายุ 52 ปี
ปั่นวีลแชร์ออกจาก จ.พิษณุโลก มาถวายพระพร
ข้าราชการกรมเสมียนตรา กระทรวงกลาโหม
คณะอบต.มะขามสูง จ.พิษณุโลก
คณะผู้บริหาร ครู นักเรียน ร.ร.ซางตาครู้สคอนแวท์ เขตธนบุรี กทม.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี