กรมชลประทานเร่งกระตุ้นการจ้างแรงงานเกษตรกรลุ่มเจ้าพระยา-แม่กลอง หวังช่วยเสริมรายได้ในช่วงงดทำนาปรัง เผยเตรียมงบกว่า 4,000 ล้านบาท สามารถจ้างแรงงานทั่วประเทศได้กว่า 450,000 ราย พร้อมบูรณาการเตรียมอาชีพเสริมช่วยชาวนาให้พ้นวิกฤติแล้งนี้
นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ภายหลังจากกรมชลประทานได้ประกาศรับสมัครแรงงานที่มีชื่ออยู่ในบัญชีครัวเรือนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร รวมไปถึงสมาชิกกลุ่มผู้ใช้น้ำของกรมชลประทานในเขตประกาศงดส่งน้ำเพื่อทำนาปรังฤดูเพาะปลูก 2557/2558 มาตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน 2557 เพื่อเข้าทำงานในการซ่อมแซม บำรุงรักษาอาคารชลประทานนั้นปรากฏว่ามีเกษตรกรได้ให้ความสนใจพอสมควร โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาทั้ง 22 จังหวัด ซึ่งเกษตรกรจะเก็บเกี่ยวนาปีเสร็จก่อนพื้นที่อื่นๆ ได้เริ่มรับสมัครมาจนถึงปัจจุบันมีทั้งสิ้นประมาณ 18,908 ราย
สำหรับการจัดจ้างแรงงานดังกล่าว กรมชลประทานได้ใช้เงินจากงบประมาณปกติ ปี 2558 และงบกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมจำนวน 4,137.62 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถจ้างแรงงานที่ผ่านหลักเกณฑ์ทั่วประเทศได้ประมาณ 450,000 ราย โดยลุ่มน้ำเจ้าพระยากับลุ่มน้ำแม่กลองได้รับการจัดสรรงบประมาณมากที่สุดประมาณ 1,400 ล้านบาท สามารถจ้างแรงงานได้ประมาณ 160,000 ราย จากเป้าหมายครัวเรือนเกษตรกรทั้ง 2 ลุ่มน้ำ
อย่างไรก็ตาม หากเกษตรกรต้องการหารายได้เพิ่มระหว่างที่งดทำนาปรัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ได้กำหนดมาตรการเสริมอื่นๆ เพื่อเป็นอาชีพทางเลือกไว้ด้วย เช่น ส่งเสริมอาชีพประมง ปศุสัตว์ การฝึกอาชีพ สนับสนุนการปลูกปุ๋ยพืชสด ซึ่งเกษตรกรสามารถเลือกมาตรการช่วยเหลือได้ตามต้องการ
ด้าน นายประวัติวิทย์ สวัสดิ์ดวง ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 13 กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลอง ซึ่งสำนักชลประทานที่ 13 รับผิดชอบนั้น ขณะนี้อยู่ในช่วงที่เกษตรกรกำลังจะทำการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ซึ่งทางกรมชลประทานได้ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือให้งดทำนาปรังแล้ว และได้เริ่มเปิดรับสมัครจ้างแรงงานเพื่อทำงานด้านชลประทานแล้วเช่นกัน คาดว่าจะมีเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการงดทำนาปรังปี 2558 มาสมัครในช่วงแรกประมาณ 5,200 ราย
สำหรับสถานการณ์น้ำของลุ่มน้ำแม่กลองนั้น ขณะนี้แหล่งน้ำต้นทุน ซึ่งมี 2 แห่ง คือเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ มีปริมาณน้ำที่ใช้การได้ รวมกันประมาณ 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยในรอบ 15 ปี กรมชลประทานจึงมีความจำเป็นที่จะต้องงดส่งน้ำเพื่อการทำนาปรัง ตั้งแต่ เดือนมกราคม 2558 จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2558 และจะจัดสรรน้ำเฉพาะน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ ประมาณ 1,200 ล้านลบ.ม. น้ำเพื่ออุปโภค-บริโภค และผลิตน้ำประปา 300 ล้าน ลบ.ม. และสำรองน้ำเพื่อทำนาปี 2558 ประมาณ 3,000 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะทำให้มีน้ำเหลือประมาณ 400-500 ล้านลบ.ม. เท่านั้น
“โดยปกติการทำนาปรังจะต้องใช้น้ำ ประมาณปีละ 3,500 ล้าน ลบ.ม. แต่จากปริมาณน้ำต้นทุนที่เหลืออยู่ไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องงดส่งน้ำสำหรับทำนาปรังในปี 2558” นายประวัติวิทย์ กล่าวในตอนท้าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี