29 พ.ย.57 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรอำเภอปทุมราชวงศา ชี้แจงกรณีคลิปภาพเด็กร้องไห้หน้าห้องขัง แท้จริงเป็นฝีมือของลูกเขย ที่มีแม่ยายเป็นคนลาว แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ในข้อหาเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต อ้างตัวเป็นคนสนิทของอดีต สส.ชื่อดังคนหนึ่งในพื้นที่ กร่าง พูดกดดันเจ้าหน้าที่ ขอให้ปล่อยตัวแม่ยาย แต่ชุดจับกุมไม่สนใจ ควบคุมตัวส่งดำเนินคดีทันที
จากกรณีที่มีผู้ใช้นามว่า จารย์ครูหมาน คนไค นำคลิปภาพเด็กผู้ชาย นั่งร้องไห้อยู่หน้าห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา บนสถานีตำรวจภูธรอำเภอปทุมราชวงศา จังหวัดอำนาจเจริญพร้อมโพสต์ข้อความลงในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คว่า ... ...พี่น้องชาวลาวเฮาเอ้ย อย่าผ่านมาทางอำเภอปทุมราชวงศาเด้อครับ ไผจะกลับลาวให้ไปทางอื่นเด้อ เบิ่งเอาครับผู้กำกับมันเฮ็ดกับคนลาวแบบบ่มีเมตตาเลย ช่วยแชร์ด้วยครับ...ซึ่งคลิปภาพวีดีโอนี่ มีผู้เข้ามาชม แสดงความคิดเห็น และวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปต่างๆนานากัน เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอปทุมราชวงศา และได้พบกับ ร.ต.อ.เอกพล นาพิมาย ร้อยเวรเจ้าของคดี นี้ และชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 06.30 น.วานนี้ (28 พ.ย.57) เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ได้ตั้งด่านตรวจบนถนนอรุณประเสริฐ บริเวณหน้าตู้ยามในเขตเทศบาลตำบลปทุมราชวงศา ได้ตรวจค้นรถทัวร์ สายกรุงเทพ–เขมราฐ พบนางพู พมลี อายุ 55 ปี ราษฎรลาว เมืองสองคอน แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว นั่งอยู่บนรถ ไม่มีเอกสารหรือหนังสือการเดินทางเข้าออกประทศ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่าเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีหญิงชายคู่หนึ่งอุ้มลูกน้อย ตามมาที่โรงพักด้วย
ทราบภายหลังว่า ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน ส่วนคนถูกจับกุมตัวเป็นแม่ของฝ่ายหญิง ตลอดเวลาที่อยู่บนโรงพัก ชายคนดังกล่าวซึ่งเป็นลูกเขย พยายามอ้างตัวว่า เป็นคนสนิทของ อดีต สส.ชื่อดังคนหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี กร่าง พูดกดดันเจ้าหน้าที่ ขอให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวแม่ยายแต่ แต่ชุดจับกุมไม่สนใจ ควบคุมตัวส่งดำเนินคดีทันที
ขณะเดียวกัน หลานชายซึ่งนั่งอยู่กับแม่ ก็ร้องไห้อยู่ตลอด อยากเข้าไปหายายในห้องขัง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเอาเก้าอี้มาให้เด็กคนนี้นั่งอยู่หน้าห้องขัง โดยยายได้ยื่นมือออกมาลูบหัว และถือขวดนมตลอด เพื่อให้หลานหยุดร้องไห้ แต่หลานก็ยังร้องไห้ตลอด โดยลูกเขย ก็คือผู้ใช้นามว่า จารย์ครูหมาน คนไค ได้ใช้แท๊ปเล็ต ถ่ายภาพไว้ตลอด และนำคลิปภาพมาลงในเฟสบุ๊คดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปส่งฟ้องศาล ซึ่งศาลมีคำพิพากษาให้ปรับจำเลยเป็นเงิน 4000 บาท โดยมีลูกเขยกับลูกสาว เป็นคนเสียค่าปรับให้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาส่งที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเขมราฐ จ.อุบลราชธานี เพื่อผลักดันกับประเทศลาวต่อไป
ซึ่งนางพู พมลี เป็นคนสัญชาติลาว เชื้อชาติลาว ได้สามีเป็นคนไทย และมาอยู่เมืองไทยนานแล้ว จนมีลูกเต้าหลายคน ซึ่งลูกทุกคนเป็นคนไทยหมด
ร.ต.อ.เอกพล นาพิมาย ยังกล่าวอีกว่า การปล่อยภาพคลิปวีดีโอ ลงในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค พร้อมโพสต์ข้อความลักษณะกล่าวให้ร้ายผู้กำกับฯ จะด้วยจุดประสงค์ใดก็แล้วแต่ มันเป็นการกระทำที่ไม่สมควร เจ้าหน้าที่ตำรวจเขากระทำการตามหน้าที่ ทำตามตัวบทกฎหมายทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจับกุม จนถึงส่งฟ้องศาล มีเอกสารหลักฐานพร้อมแสดงให้ทุกฝ่ายได้รับทราบข้อเท็จจริง กระบวนการทำงานทุกขั้นตอน โปร่งใส ตรวจสอบได้ครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี