คำถาม การปลูกกาแฟแบบที่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์เข้ามาใช้ควบคู่ไปกับปุ๋ยเคมี มีวิธีการทำอย่างไรครับ
ทรงอินทร์ มะคำดี
อ.หลังสวน จ.ชุมพร
คำตอบ กาแฟ เป็นพืชเศรษฐกิจที่ผลิตแล้วส่งออกต่างประเทศถึง 70 เปอร์เซ็นต์ เป็นพืชที่มีการแข่งขันกับต่างประเทศสูง ปลูกกันมากในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ผลผลิตส่วนใหญ่ใช้เป็นวัตถุดิบป้อนโรงงานอุสาหกรรม เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใช้ในการบริโภค
การปรับปรุงบำรุงดิน ใช้วิธีปลูกพืชปุ๋ยสดคลุมดิน ปลูกคลุมดินระหว่างแถวต้นกาแฟ เพื่อป้องกันกำจัดวัชพืช ป้องกันการชะล้างพังทลาย ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของหน้าดิน ช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุ และธาตุอาหารของพืชในดิน พืชคลุมดินที่ใช้ปลูกส่วนมากเป็นพืชตระกูลถั่ว ได้แก่ คาโลโปโกเนียม และเซนโตรซีม่า ซึ่งนิยมกันในภาคใต้ ใช้เมล็ดพันธุ์อัตรา 1 กิโลกรัมต่อ 1 ไร่ ยกเว้นในพื้นที่แห้งแล้ง ใช้อัตรา 1.5 กิโลกรัมต่อไร่ โดยใช้จอบขุดดินเป็นร่องลึกประมาณ 2-3 นิ้ว ให้เป็นแถว 3 แถว ให้แถวริมที่อยู่ชิดแถวกาแฟอยู่ห่างจากแถวต้นกาแฟ ข้างละ 2 เมตร ส่วนแถวกลางให้อยู่ระหว่างกลางของแถวริมทั้งสอง นำเมล็ดพืชคลุมดินโรยลงในร่อง แล้วเกลี่ยดินกลบเมล็ด การปลูกพืชคลุมดินนี้ จะปลูกก่อนหรือปลูกพร้อมๆ กับปลูกกาแฟ หรือหลังปลูกกาแฟแล้วก็ได้ แต่เพื่อความสะดวกและง่ายต่อการกำจัดวัชพืช ควรปลูกพืชคลุมดินหลังจากได้เตรียมดินวางแนว และกะระยะปลูกกาแฟเสร็จเรียบร้อยแล้ว
การใช้ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมัก การปลูกกาแฟจะปลูกเป็นหลุม เตรียมหลุมปลูกกาแฟขนาด กว้าง x ยาว x ลึก ประมาณ 50x50x50 เซนติเมตร เมื่อขุดหลุมแล้ว รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก 3 กิโลกรัมต่อต้น คลุกเคล้าให้เข้ากันดีกับดินก้นหลุม และใส่ปุ๋ยหมัก 5 กิโลกรัมต่อต้น ผสมกับดินในหลุม ปลูกหญ้าแฝกเป็นวงกลมล้อมรอบต้นกาแฟ 2 วง หญ้าแฝกวงแรก ปลูกห่างจากหลุมกาแฟ เฉลี่ย 30 เซนติเมตร หญ้าแฝกวงที่สอง ห่างจากวงแรก 50 เซนติเมตร จะปลูกก่อนหรือหลังปลูกกาแฟก็ได้ ให้ใช้หญ้าแฝกพันธุ์ที่ลุ่มตามคำแนะนำของกรมพัฒนาที่ดิน เมื่อต้นหญ้าแฝกมีอายุ 4-6 เดือน สามารถตัดใบคลุมโคนต้นกาแฟได้ และเมื่อรัศมีทรงพุ่มของต้นกาแฟเจริญเติบโตมาถึงหญ้าแฝกวงแรก ให้แซะต้นหญ้าแฝกวงแรกออก นำมาขยายพันธุ์ปลูกเป็นวงที่สาม โดยปลูกห่างจากวงที่สอง 50 เซนติเมตร ทำเช่นนี้ทุกครั้ง เมื่อทรงพุ่มกาแฟไปถึงวงหญ้าแฝก เมื่อต้นกาแฟเจริญเต็มที่จึงหยุดขยายวงปลูกหญ้าแฝก
การใส่ปุ๋ย การใช้ปุ๋ยเคมีร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์จะสามารถลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเคมีลงได้จากเดิม 20-40 เปอร์เซ็นต์ การใส่ปุ๋ยมี 2 ระยะ คือ ระยะแรกคือ การให้ปุ๋ยต้นกาแฟที่ยังไม่ให้ผลผลิตโดยในระหว่างปีที่ 1 ถึงปีที่ 2 จะเป็นช่วงที่ต้นกาแฟยังไม่ให้ผลผลิต การให้ปุ๋ยในระยะนี้ จะใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 20 กรัม/ต้น/ปี และปุ๋ยหมัก อัตรา 20 กิโลกรัม/ต้น/ปี แบ่งใส่ 2 ครั้ง ในช่วงต้นฤดูฝนและกลางฤดูฝน และ ระยะที่สองคือ การให้ปุ๋ยแก่ต้นกาแฟที่ให้ผลผลิตแล้ว โดยการให้ปุ๋ยแก่ต้นกาแฟที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปนั้น จะใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 13-31-21 อัตรา 500 กรัม/ต้น/ปี แบ่งใส่ 2 ครั้ง ในช่วงต้นฤดูฝนและกลางฤดูฝน และใส่ปุ๋ยหมักอัตรา 20 กิโลกรัม/ต้น/ปี แบ่งใส่ 2 ครั้ง ในช่วงกลางฤดูฝนและปลายฤดูฝน
การดูแลรักษาต้นกาแฟ และการปฏิบัติการหลังการเก็บเกี่ยว ถ้าทำอย่างไม่ถูกต้อง ก็จะมีผลต่อคุณภาพของกาแฟอย่างมาก การดูแลรักษาในระหว่างปี การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว และการตากแห้งเป็นเรื่องสำคัญมาก ด้วยเหตุนี้ จึงมีความจำเป็นต้องพัฒนาคุณภาพของกาแฟให้มีคุณภาพที่ดีตรงตามมาตรฐานกำหนด ไม่มีปัญหาทางด้านสุขอนามัยพืช และสุขอนามัยของเกษตรกรเอง เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ และต้องคำนึงถึงการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ และลดต้นทุนการผลิตต่อไร่ของเกษตรกรผู้ปลูกลงด้วย…นะครับ
“นาย รัตวิ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี