หนึ่งในนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในยุคที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ชื่อ ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา คือ การดำเนินการ “ตลาดเกษตรกร” วัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าเกษตรคุณภาพเกรด “พรีเมียม” ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย คือผู้มีอันจะกิน ผู้ค้าขายกลุ่มเป้าหมายคือเกษตรกร ด้วยคาดหวังให้เกษตรกรเป็นผู้นำสินค้ามาขายด้วยตนเอง
งานเข้ากรมส่งเสริมการเกษตร เพราะได้รับความไว้วางใจจากรัฐมนตรีว่าการฯ มอบหมายให้เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ “ตลาดเกษตรกร” ในทุกจังหวัด ซึ่งตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมา กรมส่งเสริมการเกษตรก็ทยอยเปิดตลาดเกษตรกรมาเรื่อยๆ ถึงกระนั้นท่านรัฐมนตรีว่าการ ก็ยังไม่ประทับใจสักเท่าไร ดูจากที่ท่านให้สัมภาษณ์ว่า ตลาดเกษตรกรยังต้องมีการพัฒนาต่อไป ต้องยกระดับสินค้าให้เป็นสินค้าพรีเมียมที่ได้รับการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยิ่งไปกว่านั้นท่านยังอยากให้เกษตรกรสามารถบอกเล่าเรื่องราว ความเป็นมา หรือขั้นตอนการผลิตสินค้าต่างๆ เหล่านั้นได้
ดูท่านรัฐมนตรีจะวาดฝัน หรือมโนมากไปหน่อย มโนตั้งแต่สินค้าพรีเมียม เพราะการมีเครื่องหมายรับรองความปลอดภัยจากกระทรวงเกษตรฯ ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้านั้นเป็นพรีเมียม แม้ว่าสินค้านั้นจะมีคุณภาพสูงก็ตาม ภาพลักษณ์ของสินค้าพรีเมียมยังต้องมี บรรจุภัณฑ์ หรือ Packaging ที่สวยงาม ดึงดูดความสนใจ ที่สำคัญอีกประการคือ ชั้นวางจำหน่าย และสถานที่จำหน่าย ตราบใดที่สินค้าพรีเมียมวางขายบนโต๊ะธรรมดาๆ และสถานที่จำหน่ายยังเป็นตลาดชั่วคราวที่กางเต็นท์อยู่กลางแจ้ง ก็ยากที่จะมอง หรือรู้สึกว่าสินค้านั้นเป็น พรีเมียม
มโนต่อมา คือ การให้เกษตรกรมาบอก story ของสินค้าที่ตัวเองนำมาจำหน่าย ถ้าตลาดเกษตรกร เป็นตลาดถาวร ผู้จำหน่ายคงไม่ใช่เกษตรกรแท้ๆ เพราะลำพังภารกิจในการทำงานในไร่นา ดูแลการผลิต ดูแลผลผลิต ก็แทบจะไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นแล้ว งานนี้คงจะเข้าทำนอง “คนทำไม่ได้ขาย คนขายไม่ได้ทำ”
มโนอีกเรื่องหนึ่ง คือการให้กรมส่งเสริมการเกษตรมาดำเนินการ แม้อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร โอฬาร พิทักษ์ จะเป็นคนมีฝีมือ แม้กรมส่งเสริมการเกษตร จะมีเกษตรจังหวัด และเกษตรอำเภออยู่ทั่วประเทศ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนให้เกิดตลาดเกษตรกรอย่างที่ต้องการ เพราะความรู้ ความสามารถในการสร้างตลาด การบริหารจัดการตลาดไม่ใช่ใครก็ทำได้ ไม่เช่นนั้นองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือ อ.ต.ก. คงเจริญรุ่งเรืองไปนานแล้ว
เมื่อพูดถึง อ.ต.ก. หน่วยงานนี้ตั้งขึ้นมา 40 ปีแล้ว มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ การจัดตั้งหน่วยงานนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรด้านการตลาดสินค้าเกษตร เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เกษตรกร จัดหาและจำหน่ายปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพราคาเป็นธรรมและตรงตามเวลาที่ต้องการให้แก่เกษตรกร ช่วยเหลือเกษตรกร สถาบันเกษตรกร ในการเจรจา การจำหน่าย การตลาดและการเก็บรักษาซึ่งผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร หน้าที่ของ อ.ต.ก. ออกตรงกับวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือเกษตรกรปานนั้น ไฉนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงไม่มอบภารกิจ ตลาดเกษตรกร ให้ อ.ต.ก. ดำเนินการ
ถ้าให้ อ.ต.ก. ดำเนินการ ก็ไม่ต้องไปไหนไกล เริ่มที่ตลาด อ.ต.ก. นั่นแหละ ปฏิรูปตลาดใหม่ให้เป็นตลาดของสินค้าจากเกษตรกรโดยตรงอย่างแท้จริง ไม่ใช่ตลาดของ supplier อย่างปัจจุบัน ทุกวันนี้ อ.ต.ก. มีรายได้จากค่าเช่าแผงค้า สินค้าที่เข้าสู่ตลาดไม่ได้มาจากเกษตรกรโดยตรง แต่มาจากพ่อค้าคนกลาง และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ (ผลไม้) ส่วนใหญ่เป็นสินค้าพรีเมียม ราคาแพงลิบเป็นที่ร่ำลือ อ.ต.ก. จึงไม่ได้ช่วยเหลือเกษตรกรอย่างแท้จริง น่าที่ท่านรัฐมนตรีปีติพงศ์จะหันมา
ปฏิรูป อ.ต.ก. มากกว่าจะผลักดันให้เกิดตลาดเกษตรกรในทุกจังหวัดแบบฉาบฉวย เหมือนกับการจัด event ที่ท่านรัฐมนตรีหรือท่านที่ปรึกษาหลายท่าน ประกาศว่ารัฐบาลชุดนี้ ไม่เน้น นั่นแหละ
สืบเนื่องจากนโยบายคืนความสุขให้กับประชาชนของรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็พยายามจะหา “อะไร” มาคืนความสุข ให้เกษตรกร และประชาชนเหมือนกัน แต่ “อะไร” ที่ว่านี้ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นอะไร จึงน่าจะได้ทบทวน นโยบาย และแนวทางการดำเนินงานอีกสักครั้ง เพราะจนบัดนี้ ประชาชน และเกษตรกร ยังไม่ชัดเจนเลยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะทำอะไรเพื่อเกษตรกร และประชาชนบ้าง นอกจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของชาวนา และชาวสวนยาง ด้วยการจ่ายเงินชดเชยไปแล้วจำนวนไม่น้อย แต่ปัญหาก็ยังไม่หมดไป และร่ำๆ ว่าจะมีปัญหาใหม่มาให้แก้ไขอีก......เป็นที่น่าเห็นใจ
อย่างไรก็ตามหวังว่า “ตลาดเกษตรกร” คงไม่ใช่ “อะไร” ที่กระทรวงเกษตรฯจะมอบให้กับเกษตรกร และประชาชนชาวไทย ภายใต้นโยบาย “คืนความสุขให้ประชาชน”
แว่นขยาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี