วัดป่าลาดคำ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตก ของตัวเมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ พระกิตติศักดิ์ กิตติภัทโท เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าลาดคำ ปกครองพระสงฆ์ 10 รูป สามเณร 2 รูป ไม่มีแม่ชีมัคนายก 1 คน สังกัด มหานิกาย บนเนื้อที่ 27 ไร่ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้แมกไม้นานาพันธุ์ โดยเฉพาะไม้พะยูงที่ยังคงเหลืออยู่กว่า 50 ต้น ประกอบกับสำนักงานอัยการ จ.อำนาจเจริญนำมาปลูกใหม่เพิ่มเติมอีก จำนวน 100 ต้น ในแต่ละต้น จะมีป้ายคำสอนติดอยู่ทั่วป่า ปัจจุบันจึงมีไม้พะยูงขึ้นเต็มพื้นที่ เพื่อเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่สำคัญ มีการก่อสร้างหอปู่ตาจันทร์ ขึ้นมาเมื่อหลายสิบปีก่อน เพื่อเป็นสัญลักษณ์การปกป้องป่าไม้ ทำให้ขบวนการมอดไม้ ไม่กล้าเข้ามาตัดไม้พะยูงหรือพันธุ์ไม้หายาก ว่ากันว่า หากใครลักลอบเข้าไปตัดไม้ทำลายป่าภายในวัด ไม่เกิน 3 วัน จะประสบเคราะห์กรรม เกิดอาถรรพ์ ถึงกับล้มป่วยและเสียชีวิตไปในที่สุด
พระกิตติศักดิ์ กิตติภัทโท อายุ 41 ปี พรรษา 21 พรรษาเจ้าอาวาสวัดป่าลาดคำ ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญกล่าวว่า วัดป่าลาดคำ เป็นวัดเก่าแก่ มีเจ้าอาวาสผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนหลายสิบรูป ที่โดนเด่น เป็นที่รู้จักของบรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งหลายและศรัทธามาก ก็คือ หลวงพ่อใส เมื่อท่านมรณภาพไปแล้ว จึงมีญาติโยมที่นับถือท่าน และมีความศรัทธาในคำสอนของหลวงพ่อใส ได้ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์จำนวนหนึ่ง ก่อสร้างเป็นรูปปั้นองค์จำลองของหลวงพ่อใส ไว้ที่ด้านข้างศาลาการเปรียญ เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ได้กราบไหว้ ระลึกถึงคุณงามความดีของหลวงพ่อใส
พระกิตติศักดิ์ กิตติภัทโท เจ้าอาวาสวัดป่าลาดคำ กล่าวเพิ่มเติมว่า อาตมาบวชเณรตั้งแต่อายุ 13 ขวบ จวบจนปัจจุบัน รวมพรรษา 21 พรรษา โดยได้รับการถ่ายทอดวิชา เดินจงกรมและวิชาความรู้ด้านอื่นๆจากพระถวิล สุญธาติ เจ้าอาวาสองค์ที่แล้ว ซึ่งพระถวิล เป็นลูกศิษย์ท่านพุทธทาสภิกขุ ซึ่งปัจจุบัน พระถวิลได้ไปอยู่ที่สวนโมก จ.นครศรีธรรมราช เมื่อหลายปีมาแล้ว
และอาตมาจึงทำเป็นทางเดินรอบวัด สำหรับพุทธศาสนิกชน ใช้เดินจงกรม ฝึกสมาธิ การหายใจเข้า-ออก กำหนดลมหายใจเข้า-ออก ระหว่างที่เดินจงกลม ก็จะอยู่ท่ามกลางป่าไม้ ร่มไม้ สงบ ร่มรื่น ตามทางเดินแบบดินปนดินทรายธรรมชาติ ทำให้นุ่มฝ่าเท้า และทางเดินรูปร่างคล้ายกะลาเป็นบางช่วง หากย่ำเท้าเหยียบลงไป ก็เป็นการนวดฝ่าเท้าไปในตัว ทำให้รู้สึกสบายเท้าสุดวิเศษ ทำเอาบรรดาผู้มาเดินปฏิบัติสมาธิ จงกรม ต่างติดใจ ต้องหวนกลับมาเดินเป็นประจำ ที่สำคัญเป็นการออกกำลังกายอีกทางหนึ่งด้วย
พระกิตติศักดิ์ กิตติภัทโท เจ้าอาวาสวัดป่าลาดคำ ยึดแนวคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในเรื่องการทำบุญ แก่พุทธศาสนิกชนนำไปปฏิบัติ โดยพระกิตติศักดิ์กล่าวว่า พระพุทธเจ้า ทรงแสดงการเกิดบุญไว้ 3 ประการ คือ 1.บุญเกิดจากการให้ทาน 2.บุญเกิดจากการรักษาศีล 3.บุญเกิดจากการภาวนาอบรมจิตใจ โดยสรุปแล้ว การสร้างความดีทุกประการล้วนเป็นแหล่งของการเกิดผลบุญกุศลทั้งสิ้น แล้วก่อให้เกิดอานิสงส์ที่จะสร้างความสำเร็จในชีวิตได้ทั้งสิ้น
เมื่อกำลังให้ของแก่ใคร ไม่ว่าจะถวายของแก่พระสงฆ์ ให้ของแก่ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติมิตร แม้เอาข้าวให้หมากิน เอาอาหารโยนให้ปลากิน เอาเศษอาหารโปรยให้มดกิน ย่อมเกิดกระแสบุญขึ้น เป็นกระแสเรืองรอง แผ่ออกจากตัวผู้กำลังให้ เพียงไม่กี่วินาทีแสงนี้ จะพุ่งหายขึ้นไปเบื้องบน แล้วสะสมเป็นกองบุญของผู้ให้อยู่บนเทวโลก
ดังนั้น ขณะให้ของแก่ใครจึงควรอธิษฐานจิต คิดทันทีว่า บุญนี้จงเป็นของเทวดารักษาตัวข้า หรือบุญนี้จงเป็นของเจ้ากรรมนายเวรของข้า หรือบุญนี้จงเป็นของเทวดา ภูต ผี ปีศาจ เปรต ครุฑ นาค ยักษ์ ที่อาศัยอยู่ในสถานที่เรือกสวนไร่นาหรือเคหสถานบ้านเรือนของข้า หรือบุญนี้จงเป็นของเทวดารักษาบุตรของข้า จงเป็นของเทวดาผู้รักษาบิดามารดาของข้า เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่า เราต้องการแก้ไขในจุดใด
นอกจากนี้ วันป่าลาดคำ ยังได้จัดกิจกรรมวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2557 ที่ผ่านมา ด้วยการสวดมนต์เจริญภาวนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงกำหนดจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2557 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2558 เพื่อความเป็นสิริมงคล ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ และกำหนดจัดงานเข้าปริวาสกรรมในระหว่างวันที่ 1-10 มีนาคม 2558
จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนทุกท่าน ไปร่วมทำบุญ สร้างกุศล ที่วัดป่าลาดคำ ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ชีวิตจะได้อยู่เย็นเป็นสุขนั่นเอง
สนธยา ทิพย์อุตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี