พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้ความสำคัญในเรื่องน้ำเป็นอย่างยิ่ง ด้วยทรงตระหนักว่า “น้ำ” คือ ปัจจัยหลักที่จะเกื้อหนุนชีวิตความเป็นอยู่ และผลผลิตทางการเกษตร เพื่อยกระดับรายได้ ตลอดจนคุณภาพชีวิตของคนไทยทุกคนให้ดีขึ้นได้ ดั่งพระราชดำรัส ณ สวนจิตรลดา เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2529 ความตอนหนึ่งว่า
“...หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำบริโภค น้ำใช้น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพราะว่าชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ำคนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้าคนอยู่ได้ แต่ถ้ามีไฟฟ้าไม่มีน้ำคนอยู่ไม่ได้...”
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจากโครงการอันเนื่องจากพระราชดำริ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่มีประมาณ 4,447 โครงการ เป็นโครงการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำมากกว่า 2,065 โครงการ
โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดชลบุรี เป็นอีกหนึ่งโครงการในด้านพัฒนาแหล่งน้ำที่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนในพื้นที่อย่างมากมาย และถือเป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ล่าสุดที่กำลังจะเปิดดำเนินการในปี 2558 เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้
กรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมในการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง ขึ้นที่ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี มาตั้งแต่ปี 2508-2509 และได้วางแผนที่เริ่มก่อสร้างในปี พ.ศ. 2514 แต่ในปี 2515 กลับต้องชะลอโครงการไว้ก่อนเนื่องจากต้องศึกษาด้านวิศวกรรมและศึกษาความเหมาะสมโครงการเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้ชะลอโครงการออกไป ปรากฏว่ามีการร้องขอจากราษฎรในพื้นที่ ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนอันเนื่องมาจากการขาดแคลนน้ำและเกิดอุทกภัยขึ้นบ่อยครั้ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงทราบและได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับงานชลประทานในจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2525 โดยในครั้งนั้นได้ทรงมีพระราชดำริเกี่ยวกับโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวงไว้ด้วย
จนกระทั่งในวันที่ 10 มิถุนายน 2551 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการชลประทาน ให้กรมชลประทานเร่งเตรียมความพร้อมโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง จังหวัดชลบุรี และเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2551 คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้เห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง ต่อมาเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2552 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กรมชลประทานดำเนินโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองหลวง
กรมชลประทานได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวงในวันที่ 15 พฤษภาคม 2552 โดยสร้างกั้นคลองหลวง ซึ่งเป็นสาขาของแม่น้ำบางปะกง ที่บ้านคลอง ตำบลเกาะจันทร์ อำเภอเกาะจันทร์ จังหวัดชลบุรี เป็นเขื่อนดินมีความยาวความยาวเขื่อน 3.829 กิโลเมตร ความสูงประมาณ 13.30 เมตร นอกจากนี้ยังมีการก่อสร้างระบบส่งน้ำคลองส่งน้ำฝั่งซ้าย มีพื้นที่ชลประทาน 16,915 ไร่ และคลองส่งน้ำฝั่งขวา มีพื้นที่ชลประทาน 27,085 ไร่ พร้อมทั้งคลองระบายน้ำ ยาวประมาณ 50 กิโลเมตร และอาคารในคลองระบายน้ำอีก 48 แห่ง ใช้งบในการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 8,300 ล้านบาท กำหนดแล้วเสร็จทั้งโครงการตามแผนงานในปี 2559
นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง เป็นส่วนหนึ่งในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบางปะกงตอนบนและสาขา เพื่อให้มีแหล่งน้ำเพียงพอสำหรับการเพาะปลูกและอุปโภค-บริโภค รวมทั้งช่วยป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่บริเวณลุ่มน้ำ ตลอดจนรองรับการพัฒนา ด้านอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรมในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก
อ่างเก็บน้ำคลองหลวงเมื่อแล้วเสร็จจะสามารถกักเก็บน้ำได้ 98 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งน้ำให้กับพื้นที่เกษตรกรรมฤดูฝนได้จำนวน 44,000 ไร่ ฤดูแล้งจำนวน 8,500 ไร่ และยังสามารถส่งน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค การประมงและอุตสาหกรรมในพื้นที่อีกประมาณ 11.90 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี นอกจากนี้ ยังจะช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ อำเภอพานทอง อำเภอพนัสนิคม อำเภอเกาะจันทร์ อำเภอบ่อทอง และอำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามระหว่างที่ดำเนินการก่อสร้าง ในปี 2556 ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ขึ้นในพื้นที่ลุ่มน้ำปราจีนบุรีและลุ่มน้ำบางปะกง อ่างเก็บน้ำคลองหลวงแม้การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ แต่ก็สามารถกักเก็บน้ำไว้ช่วยบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่ได้อย่างเห็นผลเป็นรูปธรรม
“ในปีนั้นแม้อ่างเก็บน้ำคลองหลวงยังไม่แล้วเสร็จ แต่กรมชลประทานได้ประสานกับบริษัทที่ดำเนินการก่อสร้าง ให้ทำการกักเก็บน้ำไว้ในอ่างฯก่อนชั่วคราว เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ด้านท้ายอ่างฯ สามารถกักเก็บไว้ได้ประมาณ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นระดับที่มีความปลอดภัย ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อตวามมั่นคงของเขื่อน ทำให้ปัญหาน้ำท่วมไม่รุนแรงเหมือนพื้นที่อื่นๆของลุ่มน้ำปราจีนบุรีและลุ่มน้ำบางปะกง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่อ.เกาะจันทร์ อ.พนัสนิคม และอ.พานทอง” นายเลิศวิโรจน์กล่าว
อธิบดีกรมชลประทานกล่าวยืนยันว่า ในปี 2556 ในช่วงฤดูฝนหากไม่มีอ่างเก็บน้ำคลองหลวงกักเก็บน้ำไว้แล้ว จะมีมวลน้ำมหาศาลกว่า 70 ล้านลูกบาศก์เมตร ไหลลงมาสบทมกับปริมาณน้ำฝนที่ตกท้ายอ่างฯ ไหลท่วมพื้นที่ อ.เกาะจันทร์ อ.พนัสนิคม และอ.พานทอง อย่างรุนแรง รวมทั้งในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เฟสที่ 7-9 อาจจะกั้นน้ำไม่ได้ สร้างความเสียหายให้กับภาคอุตสาหกรรมเป็นมูลค่ามหาศาล ดังนั้น หากอ่างเก็บน้ำคลองหลวงแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี 2558 ซึ่งเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ ยิ่งจะทำให้การบริหารจัดการน้ำ ตลอดจนการแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่ออ่างเก็บน้ำคลองหลวงแล้วเสร็จสมบูรณ์ จึงมั่นใจได้ว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดชลบุรีดังกล่าวและพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากจะมีความผ่อนคลายจากปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นซ้ำซากแล้ว ยังจะทำให้มีน้ำเพียงสำหรับทุกภาคส่วน ไม่ว่าเป็นภาคการเกษตร การอุปโภคบริโภค และอุตสาหกรรม ซึ่งจากผลการศึกษาพบว่า ในปี 2559 ความต้องการใช้น้ำในลุ่มน้ำคลองหลวงจะเพิ่มสูงขึ้น โดยภาคการเกษตรจะมีความต้องการน้ำประมาณ 126 ล้านลูกบาศก์เมตร ภาคการอุปโภค-บริโภค มีความต้องการประมาณ 6 ล้านลูกบาศก์เมตร และภาคอุตสาหกรรมมีความต้องการประมาณ 68 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมเป็นประมาณ 200 ล้านลูกบาศก์เมตร
อย่างไรก็ตามแม้อ่างเก็บน้ำคลองหลวงจะมีความจุในระดับกักเก็บเพียง 98 ล้านลูกบาศก์เมตรก็ตาม แต่สามารถกักเก็บในระดับสูงสุดถึง 140.16 ล้านลูกบาศก์เมตรเต็มศักยภาพของลุ่มน้ำ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วแต่ละปีจะมีน้ำไหลเข้าอ่างฯ ประมาณ 112 ล้านลูกบาศก์เมตร และเมื่อรวมกับปริมาณน้ำที่มีอยู่เดิม กรมชลประทานสามารถบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในปี 2554 ที่ผ่านมาจังหวัดชลบุรี ได้จัดประกวดตั้งชื่ออ่างเก็บน้ำคลองหลวงขึ้นใหม่อย่างเป็นทางการ ชื่อที่ชนะเลิศการประกวดและได้นำมาใช้อยู่ในปัจจุบัน คือ “อ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทร” มีความหมายว่า “ท้องน้ำขององค์พระมหากษัตริย์” ซึ่งในเวลาต่อมาสำนักราชเลขาธิการพระบรมมหาราชวัง ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว และได้เปลี่ยนชื่อจาก อ่างเก็บน้ำคลองหลวงเป็น “อ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทร อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” จากนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน
ด้วยพระอัจฉริยภาพ และพระปรีชาสามารถในเรื่องน้ำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันนี้...อ่างเก็บน้ำคลองหลวงรัชชโลทร ก็กลายเป็นความจริง หลังจากที่ราษฎรในพื้นที่จังหวัดชลบุรีรอคอยมาเป็นระยะเวลายาวนานถึง 40 ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี