ยึดยาบ้า-ไอซ์ค่า1.2พันล้าน
เครือข่ายชายแดน‘พ.ท.ยี่เซ’
ผัวเมียไทยนำเข้า
ตำรวจเร่งลากคอ
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวประจำ จ.เชียงใหม่ รายงานว่า ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผบช.ภาค.5 พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกสร ผบช.ปส.พล.ต.บรรเจิด ฉางปูนทอง ผบ.กองกำลังผาเมือง นำยาบ้า 1,200,000เม็ด ยาไอซ์จำนวน 30กิโลกรัม รถยนต์เก๋งฮอนด้า สีขาว ทะเบียน 2กข-2759กรุงเทพมหานคร จำนวน 1คัน และรถจักรยานยนต์อีก 3คัน มูลค่าประมาณ 1,232ล้านบาท มาเปิดแถลงข่าว
โดยเบื้องต้นพบว่า รถเก๋งฮอนด้าคันดังกล่าวถูกจอดทิ้งไว้หลัง รพ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เมื่อ 3วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าตำรวจ จึงร่วมกับฝ่ายปกคอรงเข้าตรวจสอบห้องโดยสารและท้ายกระโปรงหลังรถ พบยาบ้าWY สีส้มปนเขียว จำนวน 1,200,000 เม็ด ยาไอซ์ 30กิโลกรัม ซึ่งของกลางได้บรรจุในถุงกระสอบและกระเป๋า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลอายัดทรัพย์บ้านพร้อมที่ดิน เลขที่ 999/ 36 หมู่ 9 ต.เวียงคำพาง อ.แม่สาย จ.เชียงรายและรถยนต์หรูอีก 2 คัน ของ น.ส.ณัชญานันท์ หรือ ฟอง มหัทธนสิทธิโชค อายุ 24ปีและนายณัฐชัย ตันละปาล อายุ 47ปี สองสามีภรรยาที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี เจ้าหน้าที่ทราบว่า 2สามีภรรยาคู่นี้อยู่ในเครือข่าย พ.ท.ยี่เซ ที่รับจ้างกลุ่มผู้ผลิตว้าแดง ลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน รอให้เครือข่ายมารับไปจำหน่ายให้กับลูกค้ายังพื้นที่ชั้นในของประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างรวมรวบหลักฐานออกหมายจับและจะได้ติดตามจับกุม ทั้งสองคนมาดำเนินคดี ต่อไป
สำหรับ นายณัฐชัย เคยติดคุกถึง 15ปีและเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน
คาดว่ายาเสพติดล็อตนี้นำมาพักไว้ที่ อ.แม่อาย เพื่อจะขนย้ายช่วงเทศกาลส่งท้ายปีก่อนต้อนรับปีใหม่ เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจและแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวก็เป็นไปได้
ที่ศูนย์บริหารสาธารณูปโภคและสิ่งแวดล้อม นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลางครั้งที่44 โดยมี นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว. สาธารณสุข นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ทูตานุทูต ผู้บริหารทุกส่วนราชการ เป็นสักขีพยานการเผาทำลายยาเสพติดให้โทษของกลางที่คดีความสิ้นสุดแล้วจำนวนกว่า 2,167กิโลกรัม จาก 1,059คดี มูลค่ากว่า 6,565ล้านบาท
วันเดียวกัน ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเตอร์ ถนนแจ้งวัฒนะ กทม.พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดโครงการประชุมเชิงปฎิบัติการผู้บริหารสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดระบบบังคับบำบัด พร้อมกล่าวถึงแนวโน้มการแก้ปัญหายาเพสติดทั้งระดับโลกและภูมิภาคว่า เป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งต้องทำอย่างจริงจังโดยเน้นงาน 3ส่วนคือ 1.ด้านป้องกันปราบปรามและบังคับใช้กฎหมาย 2.การบำบัดฟื้นฟูและ3.การสร้างภูมิคุ้มกัน ทั้งนี้สถิติการจับยาเสพติดต่อปีมีการจับได้เพียง 15เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือ 85เปอร์เซ็นต์ ไม่สามารถจับกุมได้
‘วันนี้ประเทศไทยถือว่าเป็นฮับของยาเสพติด ที่มีการระบาดของยาเสพติดสูงสุดในอาเซียน ในประเทศไทยประชาชนเฉลี่ย 2เปอร์เซ็นต์ ติดยาเสพติด หรือประมาณ 1.3ล้านคน โดยจำนวนผู้ติดยาเสพติดดังกล่าวอยู่เรือนจำ 70เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 2-3แสนคน ส่วนอีกประมาณ 1ล้านคน ถูกละเลยจากระบบราชการไม่ได้รับการดูแลกว่า 7-8แสนคนและอีก 2-3แสนคน เข้าสู่การบำบัดฟื้นฟู ทุกวันนี้แนวโน้มอายุคนติดยาเสพติดมีอายุน้อยลง ซึ่งเมื่อวันที่ 17ธันวาคม ผมลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พบว่า มีเด็กประถม1-2 อายุประมาณ 7 ขวบเริ่มดมกาวแล้ว ซึ่งการแก้ปัญหาจะเน้นไปที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) การดูแลงบประมาณไปที่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายป้องกัน นอกจากนี้ มีรายงานจากการสุ่มตรวจฉี่และสอบประวัติทหารเกณฑ์ใหม่พบว่า บางหน่วย 60-70เปอร์เซ็นต์ มีทหารเสพยาเสพติด จึงสั่งให้นำหลักสูตรใหม่การบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดบรรจุไว้ในหลักสูตรการฝึกทหารเกณฑ์ใหม่ด้วย’ พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี