19 ธ.ค. 57 เวลา 01.30 น. ร.ต.ท.วินัย โนติ๊บ พนักงานสอบสวน สภ.นาหมื่น ได้รับแจ้งจากนายทองทรัพย์ โนทะ นายก อบต.ปิงหลวง ว่ามีชาวบ้านพบรถยนต์โตโยต้า วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 1921 นครสวรรค์ และมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว จึงรายงานให้ พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.จ.น่าน , พ.ต.อ.วีระชัย บั้งเงิน รอง ผบก.ภ.จ.น่าน , พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.สภ.นาหมื่น , พ.ต.ท.นิวัฒน์ กันศร สวป.สภ.นาหมื่น , นายแพทย์เฉลิมพล ผลดีเจริญ และแพทย์หญิงอัญชลี สีกัน แพทย์เวร รพ.นาหมื่น พร้อมเจ้าหน้าที่วิทยาการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน จนท.ตร.ชุดสืบสวน สภ.นาหมื่น รุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ เพื่อร่วมกันชันสูตรพลิกศพ
ที่เกิดพบรถยนต์โตโยต้า วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 1921 นครสวรรค์ บริเวณหน้า โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปิงหลวง บ้านดอนมูล หมู่ 1 ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น จ.น่าน พบศพของ ด.ต.บุญญฤทธิ์ เรือนเย็น ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลาดกระบัง เสียชีวิตอยู่ที่นั่งคนขับ สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลม สีขาว สวมกางเก๋งยีนขายาว สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับด้านขวาลูกกระสุนทะลุขมับซ้าย ไปถูกกระจกรถด้านหน้าข้างซ้ายแตก และพบอาวุธปืนพกสั้น ขนาด .357 ยี่ห้อ สมิธแอนด์เวสสัน เปื้อนเลือด วางไว้ที่หน้าตัด เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 1 ชม.
นอกจากนี้ยังพบศพของ น.ส.รุ่งนภา ต๊ะมูล อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 13 บ้านดอนมูล หมู่ที่ 1 ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น จ.น่าน สภาพศพนั่งคู่อยู่เบาะหน้าด้านซ้าย สภาพศพสวมชุดคลุมท้องสีขาว โดยมีสายกระเป๋าถือพาดลำตัว มีลักษณะท้องประมาณ 3 เดือน สภาพศพแข็งกระด้าง เลือดแข็งตัว ถูกยิงด้วยกระสุนชนิดเดียวกัน เข้าที่ขมับข้างขวา ลูกกระสุนฝังใน จำนวน 1 นัด ซึ่งแพทย์เวร ลงความเห็นว่าผู้ตายเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชม. จึงได้นำศพผู้เสียชีวิตมาตรวจสอบที่ รพ.นาหมื่น อีกครั้งหนึ่ง
ร.ต.ท.วินัย เปิดเผย ศพที่พบในที่เกิดเหตุนั้นเป็นศพของ ด.ต.บุญญฤทธิ์ เรือนเย็น ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ลาดกระบัง ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง น.ส.รุ่งนภา ต๊ะมูล อายุ 23 ปี อดีตแฟนสาว ที่กรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ ก่อนนำร่างที่เสียชีวิตขึ้น รถยนต์โตโยต้า วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กท 1921 นครสวรรค์ ขับหลบหนี และได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวตายภายในรถยนต์คันดังกล่าว บริเวณหน้า โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลปิงหลวง บ้านดอนมูล ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น จ.น่าน
จากการสอบถามนายทองทรัพย์ โนทะ นายก อบต.ปิงหลวง เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ของวันที่ 18 ธ.ค. 57 เห็นรถยนต์คันดังกล่าวขับวนเวียนอยู่ในหมู่บ้านหลายรอบ และได้มาจอดอยู่ที่หน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลปิงหลวง ซึ่งชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นนักท่องเที่ยวเกิดอาการง่วงขับรถไม่ไหวจอดนอนพัก แต่ปรากฏว่าเวลาประมาณ 01.00 น. ได้เสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงตกใจตื่นและพากันออกมาดู ปรากฏพบคนตายอยู่ในรถยนต์ 2 ศพ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้เจ้าหน้าที่ได้นำรถยนต์คันดังกล่าวชักลากเก็บไว้ที่ สภ.นาหมื่น และนำร่างทั้ง 2 ศพชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลนาหมื่น โดยมีญาติทั้งสองฝ่ายมารอรับศพด้วยความเศร้าเสียใจ กล่าวสั้นๆ ว่าไม่ทราบสาเหตุ โดยทางญาติของ ด.ต.บุญญฤทธิ์ เตรียมนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดธรรมจักร อ.เมือง จ.พิษณุโลก ส่วนของ น.ส.รุ่งนภา ญาติได้นำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านดอนมูล ต.ปิงหลวง อ.นาหมื่น จ.น่าน ต่อไป
ด้านนายทองทรัพย์ โนทะ นายก อบต.ปิงหลวง เปิดเผยว่า ทางครอบครัวของ น.ส.รุ่งนภา มีฐานะยากจนมาก โดยผู้ตายเป็นคนน่าสงสาร พ่อกับแม่ ทิ้งไว้ให้ตากับยายเลี้ยงตั้งแต่เล็ก โดยไม่กลับมาอีกเลย ซึ่งผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี เมื่อโตจึงไปทำงานตามร้านอาหารต่างๆ ในกรุงเทพฯ และคอยส่งเงินกลับมาให้ทางบ้านให้ตากับยายไว้ซื้ออาหารกินอยู่ อย่างไรแล้วศพของน.ส.รุ่งนภา ทางหมู่บ้าน และทาง อบต.จะได้ช่วยกันจัดงานบำเพ็ญกุศลศพ โดยจะจัดเพียง 2 วัน แล้วทำการฌาปนกิจศพเลยเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ระหว่างที่ ด.ต.บุญญฤทธิ์ พาร่างของ น.ส.รุ่งนภา ขึ้นรถหลบหนี้มานั้น เพื่อนตำรวจด้วยกันได้ส่งข้อความานทางแอพพลิเคชั่นไลน์ และพยายามเกลี้ยงกล่อม ด.ต.บุญญฤทธิ์ แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่า "ไม่อยากมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.หึงโหดยิงอดีตแฟนฟุบ เผยตั้งท้อง3เดือน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี