20 ธ.ค. 57 พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุมทหาร สังกัดมณฑลทหารบกที่ 41 อุ้มรีดเงิน 2 สามีภรรยาชาวยูเครน ที่จ.ภูเก็ต พร้อมกับอาวุธปืนว่า ตนได้รับรายงานดังกล่าวแล้ว และได้สั่งการให้ ผบ.มทบ.41 ไปประสานกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ว่าราชการจังหวัด ในการเข้าสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเอาขอเท็จจริงออกมาให้ได้ก่อน ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น โดยในเบื้องต้นที่ได้รับรายงานจากทางเจ้าหน้าที่ทหารว่า ทางทหารได้รับการร้องขอจากผู้เสียหายชาวยูเคนที่เป็นคู่กรณีกับอีกฝั่ง ว่าให้เข้ามาช่วยเหลือในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ทหารที่ดูแลในเรื่องร้องทุกข์ ร้องเรียน โดยทางเจ้าหน้าที่ทหารก็ได้ไปเชิญคู่กรณีมาพบเพื่อเคลียร์ปัญหากัน และได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็อยู่ระหว่างการดำเนินการขั้นต่อไป แต่ตนไม่แน่ใจว่าขั้นตอนการปฏิบัติของพวกเขา ทางผู้บังคับบัญชารับรู้รับทราบหรือไม่ และมีขั้นตอนการดำเนินการเป็นอย่างไร จึงต้องมีการสอบสวนกันอีกครั้ง
พล.ท.ปราการ กล่าวว่า จากที่ได้รับรายงานมาขั้นต้น ตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือเป็นคำแก้ตัว ถ้าเป็นข้อเท็จจริงก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทางเจ้าหน้าที่ทหารเขาด้วย ถ้าเป็นคำแก้ตัวแล้วไปสมรู้รวมคิดเพื่อจะมีผลประโยชน์ ในเรื่องเงินส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเรารู้ทั่วไปว่ามันมีอย่างนี้ ก็ต้องดำเนินคดีกันไป การทำงานต้องมีขั้นมีตอน ไม่ใช่ว่าได้รับการร้องขอแล้วจะทำได้เลย ต้องรายงานผู้บังคับบัญชา แล้วผู้บังคับบัญชาอนุมัติ เพราะฉะนั้นจะกล่าวอ้างไม่ได้เลย มันจะต้องมีหลักฐาน
"ผมไม่เอาไว้แน่นอนบุคคลประเภทนี้ จะดำเนินคดีทั้งวินัย และคดีอาญา ผมเปิดไฟเขียวให้ดำเนินการตามกฏหมายได้เลย ก็ขอให้รอผลการสอบสวนก่อนว่าเป็นอย่างไร" แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี