อีกไม่นานก็จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ไทยเราก็เตรียมตัวมานาน โดยเฉพาะเดี๋ยวนี้เชียงใหม่จะไปไหนก็ง่ายไม่ว่าจะขึ้นเหนือ ล่องใต้ ไปต่างประเทศ มีให้เลือกหลายทาง ในวันนี้ ท่านกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาชนจีน เฉา เสี่ยว เหลียง ได้พาคณะสื่อมวลชนเชียงใหม่นำโดย ท่าน ผอ.สปข.3 ธารทิพย์ ทองงานขำ เพื่อมาดูเส้นทางเศรษกิจ การค้า การลงทุน ท่องเที่ยว และเชื่อมสัมพันธไมตรีฉันพี่น้องระหว่าง จีน-ไทย และที่เราจะพาท่านมาท่องเที่ยวในครั้งนี้คือทางถนน R3A โดยเริ่มจากเชียงใหม่มาเชียงรายแล้วไปข้ามสะพานน้ำโขงแห่งที่ 4 อ.เชียงของ ห้วยทราย และที่ชายแดนเชียงของแห่งนี้มีบริษัทของนักธุรกิจชาวจีนมาลงทุนด้านนำเข้าและส่งออก ซึ่งกำลังก่อสร้าง บนเนื้อที่ 300 กว่าไร่ และลงทุน 6,000 กว่าล้าน เพื่อขนส่งสินค้าระหว่างไทยและจีน พอเข้าสู่ประเทศลาว เราก็จะได้เห็นวิวทิวทัศน์ พร้อมกับดูวิถีชีวิตตามข้างทางจนถึงด่านบ่อห่าน
โดยมีรองผู้อำนวยการสำนักงานต่างประเทศสิบสองปันนามณทลยูนนาน ต้อนรับ ดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ ด่านนี้ ถือว่าเป็นประตูสู่ประเทศไทยมีการซื้อขายปีหนึ่ง 23.900 ล้านหยวน มีบุคคลเข้าออกมากถึง 129 ต่อปีส่วนห้องบรรยายที่นี่อลังการงานสร้างมาก ทั้งระบบเสียงและจอภาพ หลังจากนั้นก็ออกเดินทางต่อไปตามถนนที่จีนเขาสร้างที่ทุกคนมาแล้วจะต้องตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าจะขึ้นเขาก็เจาะทะลุเป็นอุโมงค์ ลงห้วยก็มีสะพานข้าม ส่วนทางโค้งมีน้อยมาก เหมือนกับวิ่งบนถนนชุบเปอร์ไฮเวย์ เพื่อเข้าสู่เมืองเชียงรุ้งหรือสิบสองปันนาที่คนไทยรู้จักดี ส่วนใหญ่ประชาชนที่นี่เป็นชาวไทลื้อ มีประเพณีและภาษาที่ใกล้เคียงกับภาคเหนือของเรา ซึ่งสิบสองปันนากับจังหวัดเชียงใหม่ มีความสัมพันธ์ด้วยดีมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว ได้เซ็นสัญญา MOU กับเชียงใหม่และหลายจังหวัดในภาคเหนือเป็นบ้านพี่เมืองน้องกัน ที่สิบสองปันนานี้
นอกจากมีหมู่บ้านไทลื้อแล้วยังมี เขตอุตสาหกรรมที่ทันสมัย มีแลป มีห้องวิจัย พืชทดลองปลูก ซึ่งสกัดมาเป็นน้ำมัน และวัดป่าเจ ซึ่งเป็นวัดที่มีอายุตั้งแต่ก่อสร้างรวม 1.400 กว่าปีตั้งอยู่กลางใจเมืองสวยงามมากและเป็นที่นับถือของผู้คนที่นี่ นักท่องเที่ยวเมื่อมาถึงจะต้องมากราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคล ส่วนถนนตามข้างทางเราจะเห็นว่ามีการปลูกกล้วยหอม พุทราจีน โดยเฉพาะที่เมืองผูเอ่อ อำเภอทงไห่ มีการปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ซึ่งถือว่าเป็นผักเศรษฐกิจของที่นี่ก็ว่าได้เพราะปลูกกันทั้งเมือง สลับกับตึกรามบ้านช่อง
โดยมีบริษัทส่งออกตั้งอยู่ที่นี่เพื่อรับซื้อและตรวจสอบคุณภาพ ซึ่งไทยเราก็อาจจะบริโภคผักจากที่นี่ก็ได้ ที่เมืองนี้ยังมีการปลูกชาออแกนิกบนเนื้อที่หลายแสนไร่และมีบริษัทชาจูเสียงส่งออกไปทั่วโลกที่ใหญ่มาก และยังมีการปลูกกาแฟและโรงงานของบริษัทอ้ายนี เพื่อส่งให้กับสตาร์บัค และในตัวเมืองมีเนินเขาที่ทำเป็นบันไดไม้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินออกกำลังและชมวิวของตัวเมืองอีกด้วย จากเมืองผูเอ่อขับรถมายังเมืองคุนหมิงประมาณสองชั่วโมง เพื่อดูตลาดดอกไม้โต่วหนาน ซึ่งมีดอกไม้หลากหลายพันธุ์มาขายกันที่นี่ มีห้องให้ลูกค้ามาประมูลทุกวันในช่วงบ่าย อากาศที่นี่ในช่วงนี้หนาว 7 องศา ถ้าอยู่เมืองไทยยังหนาวไม่พอใครจะขับรถมาท่องเที่ยวตามถนน R3A พอถึงคุนหมิงนั่งเครื่องบินกลับก็ได้เพราะที่นี่เป็นเหมือนบ้านพี่เมืองน้องของไทยเรา อาหารการกินก็คล้ายคลึงกัน ถนนหนทางก็สะดวกสบาย เกาะกลาง เต็มไปด้วยต้นไม้เหมือนยกป่ามาไว้บนถนนทำให้ร่มรื่น ช่วงที่คณะเรามาระหว่างทางยังเจอคาราวานทัวร์ของกลุ่มคนไทยที่ขับรถมา แล้วก็จะขับกลับด้วย ปีหน้าก็เข้าสู่ประชาคมอาเซียน ผมว่าน่าจะมีคนเดินทางบนถนนสายเศรษฐกิจท่องเที่ยว R3A มากขึ้น หนาวนี้ลองไปเที่ยวดูนะครับ
พิชัย พิสูจน์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี