นราธิวาสสำลักน้ำ
ปิดยาว150โรงเรียน
แม่ทัพ4ผวาร่วงซ้ำ
ห้ามฮ.บินชั่วคราว
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 22 ธันวาคมถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดนราธิวาส ว่าปริมาณน้ำยังคงท่วมขังบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกรรม ทั้ง13 อำเภอแต่หนักสุด คือ อ.สุไหงโก-ลก และตากใบ โดยมีมวลน้ำป่าและปริมาณน้ำฝนได้ไหลลงมาสมทบลงสู่แม่น้ำสุไหงโก-ลก อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำท่วมขังสูงกว่าตลิ่ง โดยอยู่ที่ระดับ 2.42 เมตร และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น เนื่องจากฝนยังตกตลอดเวลา
โดยเฉพาะที่บ้านแฆแบ๊ะ ม.1 บ้านตาเซ๊ะ ม.2 และบ้านกัวลอต๊ะ ม.3 ต.นานาค อ.ตากใบ ซึ่งส่วนใหญ่ปลุกบ้านริมน้ำได้รับความเดือดร้อนหนัก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำเต็นส์ไปกางไว้บนถนน เพื่อให้ราษฎรได้ใช้เป็นสถานที่อาศัยชั่วคราว
สำหรับโรงเรียนในสังกัดสำนักงานพื้นที่การประถมศึกษาทั้ง 3 เขต จำนวนกว่า 150 โรง ซึ่งประกาศปิดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 57 ที่ผ่านมา ยังคงปิดการเรียนการสอนต่อเนื่อง
ด้านบรรยากาศในพื้นที่จังหวัดยะลา ยังคงมีท้องฟ้ามืดครึมและมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริเวณเส้นทางสายเข้าไปบ้านซาไก .ม.3 ต.บ้านแหร อ.ธารโต ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก
นอกจากนี้ชาวบ้านยังช่วยกันขุดลอกคูคลองเพื่อเปิดเส้นทางน้ำผ่านป้องกันน้ำไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน ส่วนสถานการณ์ทั่วไปในพื้นที่จังหวัดยะลาหลายอำเภอก็ยังคงเกิดวิกฤตน้ำท่วมสูงชาวบ้านรอความช่วยเหลือจากส่วนราชการเนื่องจากบางเส้นทางถูกตัดขาดแล้ว
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) เเจ้งว่า ในวันที่ 22-23 ธันวาคมนี้ จะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม ในพื้นที่ลุ่มน้ำปัตตานี บริเวณ อ.โคกโพธิ์ อ.แม่ลาน อ.ยะรัง อ.หนองจิก อ.เมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ขอให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยดังกล่าวระมัดระวัง
เช้าวันเดียวกันได้เกิดเหตุน้ำป่าจากเทือกเขาแก้วไหลทะลักเข้าท่วมในพื้นที่ต.ฉลุง และต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังเกิดฝนตกหนัก โดยขณะนี้น้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมเริ่มขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางความโกลาหลของชาวบ้านที่ไม่ทันเตรียมตัว โดยทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของทั้งสองตำบลได้เร่งแจ้งเตือนให้ชาวบ้านขนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูงโดยเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่ในแนวน้ำท่วมเดิม
ที่จังหวัดพัทลุงจากสภาพฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ล่าสุดทำให้พื้นที่ 6 อำเภอของจังหวัดพัทลุง ประกอบด้วย อ.ศรีนครินทร์ อ.ควนขนุน อ.ศรีบรรพต อ.เขาชัยสน อ.ตะโหมด และ อ.เมืองพัทลุง บ้านเรือนราษฎร์ถูกน้ำป่าหลากท่วม ถนนในหมู่บ้านหลายสายรถเล็กไม่สามารถสัญจรได้
เฉพาะในพื้นที่ หมู่ 9 หมู่ 10 บ้านพลายทอง ต.พญาขัน อ.เมืองพัทลุง บ้านเรือนของชาวบ้านกว่า 300 ครัวเรือนถูกน้ำท่วมยาวนานมากว่า 2 สัปดาห์ ระดับน้ำมีแต่ทรงตัวและเพิ่มขึ้น ชาวบ้านใช้ชีวิตอย่างลำบาก เพราะบ้านถูกน้ำท่วม หลายรายป่วยเป็นโรคน้ำกัดเท้าแล้ว
ที่ จ.ตรังเกิดเหตุน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านรวม 2 อำเภอได้แก่ อ.นาโยงและ อ.เมือง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 70 หลังคาเรือน โดยเฉพาะที่ตำบลละมอ ตำบลช่อง อ.นาโยงและตำบลนาโยงใต้ อ.เมือง โดยที่หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 8 ต.นาโยงใต้ น้ำไหลเข้าท่วมถนนสายควนสงฆ์ จนรถเล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้ ชาวบ้านหลายสิบหลังคาเรือนไม่สามารถขนย้ายสิ่งของหนีน้ำที่ไหลหลากมาอย่างรวดเร็วได้ทันจนข้าวของได้รับความเสียหายจำนวนมาก
เช่นเดียวกับที่หมู่ที่ 8 ต.นาโยงใต้ อ.เมือง น้ำเอ่อล้นคลองนางน้อย และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน สวนยางพาราและนาข้าวได้รับความเสียหายกว่า 3,000 ไร่
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองโฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจสถานการณ์น้ำท่วม ของเจ้าหน้าที่ทหาร ฮท.206 แบบ 4 ที่นั่ง ตกในพื้น จ.ยะลา ว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเครื่องบินตกเพราะสภาพอากาศ หรือเครื่องยนต์ขัดข้อง ซึ่งต้องรอเจ้าหน้าที่ชุดนิรภัย ศูนย์การบินทหารบก เข้าตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ก่อน พร้อมสอบปากคำนักบินอย่างละเอียด ส่วนการเคลื่อนย้ายเครื่องบินนั้น ยังไม่สามารถทำได้
พ.อ.ปราโมทย์ ยังกล่าวว่าขณะนี้ พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาค 4 ก็ได้สั่งการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2557 ตามคำแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยา ให้งดใช้อากาศยานทุกชนิด ในการเดินทางของคณะผู้บังคับบัญชา และการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ให้ใช้รถยนต์เป็นหลัก
ด้านที่จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสภาพโดยทั่วไป อากาศเย็นโดยเฉพาะที่ อ.วังน้ำเขียว มีอากาศหนาวเย็นมากโดยเฉพาะช่วงกลางคืน เช้าและเย็นอุณหภูมิประมาณ 10-14 องศาฯชาวบ้านในพื้นที่ต้องก่อไฟผิงเพื่อคลายความหนาวเย็นเกือบทุกที่ กระนั้นก็ตามมีนักท่องเที่ยวไปเยือนพื้นที่วังน้ำเขียวอย่างต่อเนื่องเพื่อสัมผัสกับความหนาว
ก่อนหน้านี้เวลา21.00น.วันที่ 21 ธค. พ.ต.ต.สุนันต์ โม้เปาะ พนักงานสอบสวน สภ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ อยู่ที่บ้านพัก บริเวณซอยแม่อิ่ม บ้านใหม่ไทรงาม ม.16 ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา จึงรุดไปที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังมุงดูกันอยู่ ทราบซื่อ นางสำเนียง เพิ่มพูน อายุ 78 ปี สภาพศพ นอนห่มผ้าบางๆอยู่ภายในบ้าน
จากการสอบถาม น.ส.ราศรี เพิ่มพูน อายุ 48 ปี ลูกสาวของผู้ตาย บอกว่า แม่ป่วยมาหลายวันแล้วกินข้าวก็ไม่ค่อยได้ ประกอบกับมีอากาศหนาวเย็นกว่าทุกวัน ช่วงนั้นตนออกไปทำธุระนอกบ้านก็ปล่อยให้แม่นอนอยู่ในบ้านคนเดียว แต่พอกลับมาบ้านได้ตะโกนเรียกแม่อยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีคำตอบรับ ตนจึงได้ไปจับตัวพบว่า ตัวเย็นเฉียบ และเขย่าตัวเท่าไรก็ไม่รู้สึกตัว จึงรู้ว่าแม่เสียชีวิตแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี