23 ธ.ค. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ทางสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ตรวจสอบพบว่าเงินกองกลางของสถาบัน ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนกว่า 3,000 ล้านบาท ถูกยักยอกหายไปจากบัญชีธนาคารต่างๆ รวมกว่า 1,000 ล้านบาท ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 57 พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รรท.ผกก.1 บก.ป. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.พงษ์ไสว แช่มลำเจียก พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในการกระทำการทุจริต โดยเบื้องต้นพบว่าเงินได้สูญหายไปจากบัญชีธนาคารรวม 80 ล้านบาท ก่อนจะมีการตรวจสอบในรายละเอียด กระทั่งพบว่ามียอดเงินสูญหายไปกว่า 1,000 ล้านบาท
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายจับผู้ต้องหาในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 562 ซ.จ่าโสด แขวง-เขตบางนา กทม. ผอ.ส่วนการคลัง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง และ นายทรงกลด ศรีประสงค์ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/5 ถ.ชิดลม ต.แม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก ผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาห้างบิ๊กซี ศรีนครินทร์ ในข้อหาเดียวกัน
รายงานล่าสุดตำรวจกองปราบปรามได้ติดตามจับกุมตัวนายทรงกลด ศรีประสงค์ ผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2320/2557 ลงวันที่ 22 ธ.ค.ในข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม ส่วน น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ ผอ.ส่วนการคลังเจ้าหน้าที่ยังติดตามตัวอยู่
รายงานข่าวแจ้งอีกว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ร่วมกันปลอมแปลงสมุดเงินฝากของธนาคาร โดยใช้การพิมพ์ดีด พิมพ์ที่สมุดเงินฝาก และปลอมลายเซ็นทำให้เหมือนว่า จำนวนเงินยังอยู่ครบตามสมุดเงินฝาก โดยค่าเสียหายประมาณ หนึ่งพันแปดสิบล้านบาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี