27 ธ.ค.57 เมื่อเวลา 00.30 น. จากการสั่งการของ พ.อ.บรรวัฒน์ พรหมจรรย์ ผบ. ร.17 ให้พ.อ.ธีระ ผดุงสุนทร ผบ.หน่วยพื้นที่พิเศษดอยวาวี (พพศ.ดอยวาวี)ร. 17 อำนวยการ คุมเข้มปราบปรามยาเสพติดที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ชายแดนในจังหวัดเชียงราย จึงสั่งการให้ ร.อ.พิษณุ แก้วประดิษฐ หน.ชุดปฎิบัติการ พพศ.ดอยวาวี ร.17 พร้อมกับพวก ประสานขอกำลังตำรวจจาก ร.ต.ท.บรรจง รอดอุดม รอง สวป.สภ.แม่สรวย จ.เชียงราย ตั้งจุดสกัดและด่านตรวจขึ้นที่ บริเวณเส้นทางบ้านเลาลี หมู่ที่ 20 ต.วาวี อ.แม่สรวย
เวลาต่อมา พบรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน ขับขี่ซ้อนท้ายกันมา 2 คนออกจากแนวป่าบ้านห้วยชมพู อ.เมืองเชียงราย ลักษณะมีพิรุธ จึงให้สัญญานหยุดรถเพื่อทำการตรวจค้น แต่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวกลับหันหัวรถหลบหนีเข้าป่าไป กำลังทหารจึงไล่ล่าติดตามไปอย่างใกล้ชิด พบว่าคนซ้อนท้ายได้กระโดดลงจากรถ จึงถูกจับตัวได้พร้อมเป้สะพายหลัง ทราบชื่อ คือ นายจะหน่อ จะยี ชาวมูเซอ อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 286 หมู่ที่ 19 ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ตรวจค้นในเป้สะพายหลัง พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่รวมจำนวน 42,000 เม็ด ประทับตรามือ และ ฝิ่นดิบห่มหุ้มพลาสติกใสและผ้า จำนวน 2 ก้อน น้ำหนัก ประมาณ 3.35 กก.
จากการสอบสวนนายจะหน่อ ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าดังกล่าวไปรับมาจากชาวเขา ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวงจ.เชียงราย เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าที่จังหวัดลำปาง ด้วยเงินค่าจ้าง 200,000 บาท แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ที่หลบหนีไปได้ ทราบชื่อ ตือ นายจะสอ มูเซอ ไม่ทราบบ้านเลขที่ เป็นคน ต.ป่าตึง. อ.แม่จัน จึงได้นำตัวผู้ต้องหา ส่ง สภ.แม่สรวย ดำเนินคดี ข้อหามียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่นดิบ) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วนผู้หลบหนีกำลังเร่งดำเนินการติดตามตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี