2 ม.ค. 57 เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ห้อง ศปก.กก.1 บก.ป. พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคลี่คลายคดีลักทรัพย์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้เรียกประชุมคณะฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว
พ.ต.อ.ณษ เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีว่า คดีนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหารวม 8 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ ผอ.ส่วนคลัง สจล. 2.นายทรงกรด ศรีประสงค์ อดีต ผจก.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาบิ๊กซี ศรีนครินทร์ 3.นายพูลศักดิ์ บุญสวัสดิ์ นักศึกษาปริญญาโท 4.นายจริวัฒน์ สหพรอุดมการ 5.สมพงษ์ สหพรอุดมการณ์ 6.นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด 7.นางสมบัติ โสประดิษฐ์ 8.น.ส.จันทร์จิรา โสประดิษฐ์ ในข้อหาร่วมกันปลอมแปลงเอกสาร ร่วมกันลักทรัพย์ และเพิ่มข้อหา ฟอกเงิน อีก 1 ข้อหา
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมได้แล้ว 4 รายแรก ส่วนอีก 4 รายที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการติดตามจับกุม
ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้สั่งกำชับให้ทำงานอย่างรัดกุม และหากมีพยานหลักฐานที่พาดพิงไปถึงบุคคลใดก็ตาม ให้ดำเนินการไปตามกฎหมายโดยไม่ต้องยกเว้นหรือเกรงใจใคร
ขณะที่ รอง ผบก.ป. กล่าวรายงานว่า ในเรื่องของการพิจารณาขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติมนั้นว่า มีแน่นอน แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาความเกี่ยวข้องและเส้นทางการเงินที่หายไป ซึ่งเชื่อว่ามีผู้รู้เห็นและเกี่ยวข้องอีกหลายคน แต่ยังไม่สามารถสรุปจำนวนได้
สำหรับการประชุมวันนี้ ได้ติดตามความคืบหน้า การไปตรวจค้นบ้านมารดาของนายกิตติศักดิ์ ผู้ต้องหาที่หลบหนีไปกบดานอยู่ที่ฮ่องกง กรณีพบเงินในบัญชีธนาคารและโฉนดที่ดินจำนวนมาก ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และเกี่ยวข้องกับเงินในคดีของลูกชายหรือไม่
รอง ผบก.ป. ยังกล่าวถึงพฤติการณ์ของนายกิตติศักดิ์ ว่าเป็นตัวการสำคัญในคดี เพราะเป็นผู้บงการให้ผู้ต้องหารายอื่นพักเงินที่ยักยอกมาไว้ในบัญชี ก่อนจะถ่ายโอนมายังบัญชีของตนเอง แล้วจึงมาแบ่งผลโยชน์กันภายหลังเป็นการตอบแทน
ส่วนบริษัท มัทธุจัด ของนายกิตติศักดิ์ พบว่าเปิดกิจการมาตั้งแต่ปี 2555 ทำธุรกิจหลายอย่างทั้ง อสังหา โมเดอร์ริ่ง วงการบันเทิง และที่ปรึกษาทางกฎหมาย ซึ่งจะประสานให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัท ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินที่หายไปของ สจล. หรือไม่
ส่วนกรณีที่ปรากฎชื่อของ น.ส.สาวิกา ไชยเดช หรือ พิ้งกี้ นักแสดงชื่อดัง เป็นหุ้นส่วนกับผู้ต้องหาในคดีนี้นั้น เบื้องต้นยังไม่มีการเรียกตัวมาสอบสวน เนื่องจากทางพนักงานสอบสวนยังไม่ได้ลงลึกไปในเรื่องการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจหรือไม่
ส่วนกรณีของ นายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ หรือ บอย ปกรณ์ นักแสดงชื่อดังอีกรายที่มีชื่อพัวพันกับนายกิตติศักดิ์ ล่าสุดวานนี้ (1 ม.ค.) นักแสดงชื่อดัง ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังจากติดต่อขอซื้อรถยนต์ยี่ห้อแลมโบกินี่ สีเขียว ต่อจากนายกิตติศักดิ์ ซึ่งเป็นสีและรุ่นที่ต้องการ ตามที่มีคนแนะนำ ว่าได้ซื้อรถคันดังกล่าวต่อจากนายกิตติศักดิ์ เป็นเงินจำนวน 13.5 ล้านบาท พร้อมนำเอกสารการซื้อขายมายืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินของ สจล. แต่อย่างใด
สำหรับในวันที่ 5 ม.ค. จะเชิญนายถวิล พึ่งพา อดีตอธิการบดี และคณะกรรมการผู้มีอำนาจเซ็นเบิกจ่ายเงินของสถาบันฯ ทั้งชุดเก่าและปัจจุบัน มาสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากการเบิกจ่ายเงินแต่ละครั้ง ต้องมีผู้อนุมัติจำนวน 2 ใน 4 เป็นผู้รับผิดชอบ
ส่วน น.ส.อำพร หนึ่งในผู้ต้องหาที่มีอาการป่วย ขณะนี้ได้ส่งตัวเข้าเรือนจำจังหวัดมีนบุรีแล้ว หลังแพทย์โรงพยาบาลตำรวจระบุว่า อาการป่วยเบาหวานดีขึ้น สามารถกลับบ้านได้ ส่วนทางเรือนจำจะนำเข้ารักษาตัวต่อที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเรือนจำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี