ไทยส่งข้าวช่วยมาเลเซีย
พื้นที่อุทกภัยชายแดน
นราธิวาสจัดคลีนนิงเวย์
นายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอแว้ง จ.นราธิวาส นาย ซูลกิฟรี เจ๊ะมามะ นายกฯ อบต.โล๊ะจูด พร้อมด้วยหน่วยงานภาค รัฐเอกชน ได้เดินทางไปยังสำนักงานที่ดินอำเภอตาเนาะแมเราะ รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เมื่อบ่ายวันที่ 3 มกราคม เพื่อนำเครื่องอุปโภคบริโภค ที่ได้รับการบริจากจากประชาชนชาวไทยและจากส่วนราชการต่างๆ อาทิ ข้าวสาร อาหารแห้งและน้ำดื่ม จำนวนกว่า 2,000 ชุด ไปมอบให้หะยีเจ๊ะหามะ เบ็นหะยีเจ๊ะมูดอ นายอำเภอตาเนาะแมเราะ เพื่อนำไปมอบแจกจ่ายให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งอำเภอตาเนาะแมเราะ เป็น 1 ในพื้นที่รัฐกลันตัน ของประเทศมาเลเซีย ที่ถูกน้ำท่วมขังใหญ่ในรอบ 10 ปี ที่ผ่านมา โดยมีระดับน้ำท่วมขังบ้านเรือนของราษฎร โดยภาพรวมสูงกว่า 2 เมตร ซึ่งดูได้จากคราบน้ำที่ติดตามแนวผนังบ้านเรือนของประชาชน ในขณะที่คณะนำอุปโภคบริโภคเดินทางเข้าไปให้การช่วยเหลือ
โดยหะยีเจ๊ะหามะ เบ็นหะยีเจ๊ะมูดอ นายอำเภอตาเนาะแมเราะ ได้กล่าวขอบคุณผ่านชาวไทยทุกคน ที่มีน้ำใจให้การช่วยเหลือชาวมาเลเซียที่ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ ซึ่งมีราษฎรได้รับความเดือดร้อน 46,000 คน บ้านเรือนได้รับเสียหาย จำนวน 890 หลัง ซึ่งล่าสุดราษฎรได้ออกจากศุนย์อพยพและเดินทางไปทำการเก็บกวาดบ้านเรือน และเก็บรวบรวมทรัพย์ที่ได้รับความเสียหายออกจากบ้านพัก เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการเก็บซากทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายไปทิ้ง
ด้าน จังหวัดนราธิวาส ได้รับผลกระทบอิทธิพลลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงในช่วงระหว่างวันที่ 14 ธ.ค.57 จนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ ทั้ง 13 อำเภอ และในปัจจุบันนี้น้ำเริ่มลดลงจนเกือบเข้าสู่สภาวะปกติ แล้ว ทางหน่วยทหารช่างเฉพาะกิจ กองทัพภาคที่ 1 ได้ระดมกำลังสร้างถนนโครงการสร้างและปรับปรุงถนนที่ชำรุดในพื้นที่ อำแว้ง จากบ้านบาลูกา –บ้านตือมายู และบ้านสามแยก ระยะทาง 13 กม. ภายใต้กิจกรรม “ร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมพัฒนาสาย” (Big Cleaning way) อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้มีถนนใช้ โดยมีกำนัน ผู้ใหม่บ้าน และสมาชิกชุดรักษาความสงบภายในหมู่บ้าน ร่วมให้การดูแลรักษาความปลอดภัยตามถนนเส้นทางตลอดระยะเวลาการสร้างถนนของหน่วยทหารช่าง
สำหรับภารกิจการสร้างถนนในขณะนี้ได้ทำการรือผิวจารจรเดิม และบดอัดฐานทางได้ดำเนินการสร้างไปแล้ว ประมาณ 10 กม. คิดเป็นผลงานประมาณ 80 % คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ สายทางนี้อีกประมาณ 4 เดือน และจะแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2558 ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้รับทราบและเล็งเห็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการสัญจรหรือขนส่งสินค้าออกไม่สะดวก อันเนื่องมาจากถนนในหมู่บ้านหรือชุมชน มีสภาพชำรุดเสียหายมาเป็นเวลานาน โดยเป็นความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง รวมทั้งมีความเร่งด่วน เป็นปัญหาต่อความมั่นคง และกระทบต่อการแก้ไขปัญหา ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา รวมทั้งสิ้น 37 สายทางใน 37 อำเภอ จึงได้อนุมัติงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2557 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ให้กับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ และกรุณามอบให้หน่วยทหารช่างของกองทัพบก เป็นหน่วยดำเนินการประกอบด้วย หน่วยทหารช่างของกองทัพภาคที่ 1,2,3,4 และกรมการทหารช่าง พร้อมมอบให้กรมการทหารช่างเป็นหน่วยควบคุมกำกับดูแลเป็นส่วนร่วม ตามนโยบายที่ผู้บังคับบัญชามอบไว้ คือ ต้องการให้ใช้ผิวจารจรเป็นแอสฟัลท์ติกคอนกรีตที่มีส่วนผสมของยางพารา ส่งผลช่วยยืดอายุการใช้งาน และการเกาะถนนที่ดี ถนนไม่ลื่น รวมทั้งยังช่วยเพิ่มความต้องการ ใช้ยางพาราในตลาดอีกด้วย
ด้าน นาย มูฮำหมัดนอ ดือแระ กำนันตำบลเอราวัณ กล่าวว่า ขอขอบคุณรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ได้ให้ความสำคัญในถนนสายนี้ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลให้งบประมาณมาสร้างถนนสายนี้ ระยะทางประมาณ 12.5 กม ในฐานะตัวแทนชาวบ้านขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี