นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า คพ.ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์สารอินทรีย์ระเหยง่ายในพื้นที่มาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียง จ.ระยอง ในปี 2557 พบว่า สารเบนซีน 1,3 - บิวทาไดอีน และ 1,2 - ไดคลอโรอีเธน เป็นปัญหาหลักของพื้นที่ จึงได้กำหนดและผลักดันมาตรการแก้ไขปัญหาสารอินทรีย์ระเหยง่ายในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยมาตรการในระดับนโยบายในการแก้ไขปัญหาสารเบนซีนและสาร 1,3 - บิวทาไดอีนจากยานพาหนะ ได้บังคับใช้น้ำมันเบนซินหรือน้ำมันแก๊สโซลีนมาตรฐาน EURO 4 ในพื้นที่ จ.ระยอง ก่อนพื้นที่อื่น ตั้งแต่ปี 2554 ซึ่งน้ำมันตามมาตรฐาน EURO 4 เป็นน้ำมันที่มีองค์ประกอบสารเบนซีนต่ำ โดยลดลงจากร้อยละ 3 เหลือร้อยละ 1 โดยจากการประเมินการใช้น้ำมันตามมาตรฐาน EURO 4 จะทำให้ค่าการระบายสารเบนซีน จากยานพาหนะ ลดลงร้อยละ 71 สำหรับมาตรการควบคุมสารอินทรีย์ระเหยจากแหล่งกำเนิดอุตสาหกรรม กรมควบคุมมลพิษกำหนดมาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งสาร 1,2- ไดคลอโรอีเธนและสารไวนิลคลอไรด์ จากโรงงานอุตสาหกรรมเคมี มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่ปี 2553 และได้กำหนดมาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งสารเบนซีน และ สาร 1,3 - บิวทาไดอีน จากโรงงานอุตสาหกรรมเคมี ขณะนี้อยู่ระหว่างการประกาศในราชกิจจานุเบกษา คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2558
นอกจากนี้ คพ.ได้มีการผลักดันเชิงนโยบายให้หน่วยงานอนุมัติ/อนุญาตและกำกับดูแลดำเนินการกำหนดมาตรฐาน/มาตรการที่เข้มงวด ในการควบคุมการระบายสารอินทรีย์ระเหยจากแหล่งกำเนิดที่ยังไม่มีการควบคุมการระบายสารดังกล่าวออกสู่บรรยากาศ โดยเสนอคณะกรรมการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก (กพอ.) ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2557 เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 เรื่องการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนในพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออก ด้านสิ่งแวดล้อม โดยคาดว่า หากมีการดำเนินการกำหนดมาตรฐาน/มาตรการที่เข้มงวดสำหรับควบคุมการระบายสารอินทรีย์ ระเหยครอบคลุมแหล่งกำเนิดทุกแหล่งแล้ว คาดว่าสถานการณ์สารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศในพื้นที่จะมีแนวโน้มดีขึ้น
“สิ่งสำคัญที่สุด ในการแก้ไขปัญหาสารอินทรีย์ระเหยง่ายในพื้นที่มาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียง จังหวัดระยอง คือความร่วมมือจากทุกภาคส่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการและประชาชน โดยคพ.จะติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศในบรรยากาศในพื้นที่เพื่อเฝ้าระวัง ประเมิน และนำเสนอผลการแก้ไขปัญหามลพิษในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายตัวชี้วัด ได้แก่ ปริมาณค่าเฉลี่ยสารเบนซีนในบรรยากาศโดยทั่วไปในระยะเวลา 1 ปี ในพื้นที่เขตควบคุมมลพิษมาบตาพุด จังหวัดระยอง มีค่าลดลงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี” อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี