รอบรั้วเมืองใต้ ฉบับนี้ในนสพ.แนวหน้า ผู้เขียนขอเข้าเวรร่ายข่าวสังคม “ชมคนที่ควรชม ข่มคนที่ควรข่ม” ตามวิสัยของคนหนังสือพิมพ์อาชีพ ที่เห็นมาอย่างไรก็เขียนไปอย่างนั้น...
■■ หลังการถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บรรยากาศทางการเมือง ไม่ได้ร้อนระอุ อย่างที่หลายฝ่าย “วิตกจริต” ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันท์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. รู้ดีว่า นี่คือสิ่ง “แปลกปลอม” ที่ไม่ใช่ของจริง เพราะ “ของจริง” ยังคง สงบนิ่งแต่ “คุกรุ่น” เพื่อรอวันที่จะ “ระเบิด” เพียงแต่ ณ วันนี้ ยังไม่ใช่เวลา...
■■ แต่อย่างไรก็ตาม การที่ฝ่าย “เสื้อแดง” ยังสงบนิ่ง ยอม “กลืนเลือด” ในที่ตั้งก็เป็น “กุศล” สำหรับประเทศไทย ที่รัฐบาล นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จะได้ใช้เวลาในการ “ขับเคลื่อน” แก้ปัญหาในเรื่องของเศรษฐกิจ การ “ปฏิรูป” และการพัฒนาประเทศ...
■■ ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือกระทรวงคมนาคม ที่มี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง อดีตแม่ทัพฟ้า นั่งเป็น รมว.คมนาคม ที่มีผลงานความคืบหน้า ในเรื่องการคมนาคม “ระบบราง” ในกทม. และในเรื่องของรถไฟความเร็วปานกลาง ที่มีประเทศจีนเป็นผู้ลงทุน...
■■ ซึ่งหากรัฐบาลชุดนี้ มีอายุเกินกว่า 2 ปี คนไทยคงจะได้ “เห็นหน้าเห็นหลัง” ของโครงการรถไฟทั่วประเทศมากกว่านี้...
■■ แต่ที่ ยังไม่เห็นหน้าเห็นหลัง คือเรื่องของเศรษฐกิจ ทั้งในเรื่องของการ “ส่งออก”และเรื่องของสินค้าทางการเกษตรที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะรมว.พาณิชย์ ยังคงมีอาการเหมือนคน “หืดจับ” และคงจะเหนื่อยและหนักกว่าเข็นครกขึ้นเขา...
■■ ผู้เขียนก็ดีใจแทนชาวสวนยางทั่งประเทศ กับคำพูดของ พี่ใหญ่แห่ง “บูรพาพยัคฆ์” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ที่ประกาศว่าเรื่องการแก้ปัญหาราคายางเป็นเรื่อง “กล้วยๆ” อีก 1 เดือน ราคายางจะขึ้นถึง กก.ละ 80 บาท จึงขอให้พี่น้องชาวสวนยาง อดใจ อดทน อย่างเพิ่ง เรียกร้อง เคลื่อนไหว ให้รัฐบาล “ระคายเคือง” เพราะพวกเราอดทนมานานเกือบปี ทำไมจะอดทน แค่ 1 เดือนไม่ได้...
■■ แต่ถ้าพ้น 1 เดือนไปแล้ว ราคายางแผ่นดิบยังไม่ถึง กก.ละ 50 บาท น้ำยางสดยังอยู่แค่ 40 บาท อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ วันนั้นแหละที่ พล.อ.ประวิตร จะรู้ใน 2 เรื่อง คือหนึ่งจะรู้ว่าการเจรจาต้าอ่วย กับพ่อค้ายางไม่ง่ายเหมือนกับการสั่งการกับ “ทหาร” และสองจะรู้ว่า “ก่อนพูดเราคือนายของคำพูด พูดแล้คำพูดจะเป็นนายเรา” เพราะยางราคา 80 บาท มันไม่ง่ายเหมือนกับ “ปอกกล้วย” และอีกอย่างที่ พล.อ.ประวิตร คงจะไม่รู้คือ ถ้ายางราคา กก.ละ 80 บาท ในห้วงเดือนมีนาคม ชาวสวนยางจะได้อะไรในเมื่อเดือนมีนาคมและเมษายน เป็นเวลาที่ยาง “ผลัดใบ” ต้องหยุดกรีด...
■■ ดังนั้น คนที่จะได้กำไร คือพ่อค้ายางที่ ซื้อยางและน้ำยางในราคาถูก เพื่อไปทำยาง รมควัน และนำมาขายในราคาแพง โดยที่ใช้เงินกู้ของรัฐบาล ซึ่ง “นายทุน” ไม่ต้องควักกระเป๋า แม้แต่บาทเดียว...
■■ ไม่รู้ว่าระหว่างพ่อค้ากับขุนทหาร ใครโง่ ใครฉลาด และใครควรจะได้เป็น “เสนาบดี” กันแน่ แต่ที่แน่ๆ คือ ชาวสวนยางที่อาจจะต้องร้องเพลง ตายแน่ๆ ■■
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี