27 ม.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ ศ.ดร.ถวิล พึ่งมา อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ในคดีลักเงินคงคลังของสถาบันฯ เป็นรอบที่ 3 โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการสอบปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมงจนแล้วเสร็จ
ต่อมาเมื่อเวลา 13.40 น. ศ.ดร.ถวิล ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ได้เดินทางมาชี้แจงพร้อมนำหลักฐานข้อมูลทรัพย์สินส่วนตัวตั้งแต่ปี 2553 โดยก่อนหน้านี้ได้นำข้อมูลทรัพย์สินตั้งแต่ปี 2555-2557 เข้ามาชี้แจงต่อพนักงานสอบสวนไปแล้ว แต่พนักงานสอบสวนยังติดใจสงสัยจึงเข้ามาพบ ซึ่งปกติบัญชีธนาคารของตนจะมีเงินอยู่ไม่ถึง 1 ล้านบาท แต่หลังจากเกษยีณอายุราชการออกมาแล้วได้รับเงินค่าตอบแทนจากมหาวิทยาลัย ประมาณ 1.2 ล้านบาท เมื่อรวมกับเงินที่มีอยู่เดิมจึงมียอดเงินในบัญชีกว่า 2 ล้านบาท
ศ.ดร.ถวิล กล่าวถึงกรณีเงินกว่า 80 ล้านบาท ที่มีอยู่นั้น เป็นเงินที่ได้มาจากการขายที่ดินซึ่งเป็นมรดกของมารดา 20 ล้านบาท และเงินค่าตอบแทนจากการเป็นบอร์ดของ อสมท.ส่วนเรื่องเงินในบัญชีธนาคารของสถาบันเทคโนโลยีฯ ลาดกระบัง สมัยที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดี ตนได้เซ็นปิดบัญชีธนาคาร โดยทุกครั้งก็จะมีการเปิดบัญชีธนาคารในคราวเดียวกัน ซึ่งมีการตรวจสอบยอดเงินที่มีอยู่ว่าตรงกันแล้ว รวมทั้งชื่อบัญชีก็เป็นชื่อของสถาบันเทคโนโลยีฯ ลาดกระบัง ไม่ได้เป็นชื่อของบุคคลอื่น
"ผมยืนยันว่าไม่เคยเซ็นชื่อย้อนหลังเกี่ยวกับการปิดบัญชีธนาคาร หลังจากพ้นจากตำแหน่งแล้ว สำหรับเหตุที่เกิดขึ้นก็รู้สึกตกใจที่เงินสูญหายไปเป็นจำนวนมาก แต่ยืนยันว่ารู้จักเพียง น.ส.อำพร เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีท่าทีพิรุธหรือการกระทำใดๆ ที่ทำให้เกิดข้อสงสัยในตัว น.ส.อำพร มีเพียงแต่เขาป่วยแล้วจะต้องลาหยุดบ่อยๆ เท่านั้น" ศ.ดร.ถวิล กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการแถลงข่าวว่า ก่อนจะมีการปิดบัญชีธนาคาร แล้วแจ้งว่าบัญชีธนาคารสูญหายไป อดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีฯ ลาดกระบัง กล่าวต่อว่า ในส่วนนี้ตนไม่ทราบเรื่องว่ามีบัญชีธนาคารสูญหายไป แต่ทุกครั้งที่ตนจะลงนามตามที่มีการทำเรื่องเสนอมาก็จะเซ็นอนุมัติเฉพาะกรณีการปิดบัญชีธนาคารเท่านั้น อย่างไรก็ดี ตนยังคงยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีการลักเงินคงคลังของสถาบันเทคโนโลยีฯ ลาดกระบัง แต่อย่างใด และพร้อมให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวน หากยังมีประเด็นติดใจสงสัยต้องการให้ตนเข้าให้ปากคำ ก็ยินดีจะเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนอีก
ด้าน พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข รอง ผบก.ป.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ เปิดเผยว่า เงิน 80 ล้านบาท ของ ศ.ดร.ถวิล ที่เคยพบความผิดปกติก่อนหน้านี้ ได้ตรวจสอบแล้วเป็นเงินที่ได้มาก่อนจะเข้าดำรงตำแหน่ง โดยเป็นเงินจากมรดกและการประกอบกิจการอพาร์ทเม้นท์ รวมทั้งเงินที่ได้จากการที่เป็นบอร์ดบริหาร
พ.ต.อ.ณษ เปิดเผยอีกว่า ส่วนเอกสารทางการเงินที่ธนาคารไทยพาณิชย์ นำมามอบให้เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา นั้น เป็นสำเนาเอกสารการโอนเงิน ซึ่งแม้จะมีลายเซ็นต์ของทั้งฝ่ายการคลังและฝ่ายบริหาร สถาบันดังกล่าว แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบลายเซ็นได้ว่าเป็นของจริงหรือไม่ เพราะเป็นเพียงสำเนาเอกสาร ขณะนี้ทางตำรวจยังคงต้องรอแคชเชียร์เช็คจากธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงไทย มาประกอบ
รอง ผบก.ป.เปิดเผยด้วยว่า สำหรับบุคคลทั้ง 26 ราย ที่เจ้าหน้าที่พบว่ามีส่วนพัวพันกับคดี และได้ออกหมายเรียกให้เข้าพบพนักงานสอบสวน นั้น ยังคงเหลืออีก 5-6 ราย ที่ยังไม่ติดต่อเข้าพบซึ่งจะต้องมีการออกหมายเรียกซ้ำอีกครั้ง ทั้งนี้ ในวันที่ 28 มกราคมนี้ ทางพนักงานสอบสวนจะเดินทางไปสอบปากคำ น.ส.อำพร น้อยสัมฤทธิ์ อดีต ผอ.ส่วนการคลัง สถาบันเทคโนโลยีฯ ลาดกระบัง ผู้ต้องหาในคดี ที่ถูกคุมตัวอยู่ที่ทัณฑสถานหญิง ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี