เมื่อบ่ายวันที่ 27 มกราคม พ.ต.อ.มนตรี แป้นเจริญ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รองผบก.ปทส.) พ.อ. เกรียงไกร แข็งแรง ผู้บังคับการกรมพัฒนาที่ 1 ค่ายศรีสุริยวงศ์ และเจ้าหน้าที่จากกรมธนารักษ์ นายพิพัฒน์ เอกาภาพันธ์ รองผวจ.ราชบุรี เข้าตรวจสอบ “เวเนโต้ ตลาดน้ำสวนผึ้ง” ตั้งอยู่เลขที่ 231 หมู่ที่ 2 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง ซึ่งมีชื่อนายชวลิต ชิวพฤกษ์ เป็นเจ้าของ
จากการตรวจสอบพบมีการกระทำความผิดจากการสร้างฝายผิดทางกั้นน้ำในลำห้วย ส่งผลให้น้ำไหลผ่านน้อยลงสร้างผลกระทบให้กับชาวบ้านในอำเภอสวนผึ้งที่อยู่ท้ายน้ำ
ทั้งนี้ทางเวเนโต้ ตลาดน้ำสวนผึ้งทางเจ้าของได้อ้างสิทธิ์ในการเช่าครอบครองพื้นที่เป็นจำนวน 95 ไร่เศษ และมีพื้นที่ที่มีใบ นส.3 และกำลังอยู่ในกระบวนการเพิกถอนจำนวน 2 แปลง แปลงระ 15 ไร่เศษ รวมแล้ว 30 ไร่เศษ โดยพื้นที่ดังกล่าวมีการบุกรุกมีการก่อสร้างอาคารสถานที่ในพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเอกสารสิทธิในการครอบครองมีแต่ใบเสียภาษีบำรุงท้องที่ และไม่เข้าเงื่อนไขการขอเช่าพื้นที่ราชพัสดุ
ต่อมาคณะของ ปทส.เข้าตรวจสอบภายใน”ภูผาผึ้งรีสอร์ท” ตั้งอยู่เลขที่ 423/45-48 หมู่ 2 ต.สวนผึ้ง ซึ่งมีชื่อนายเชาวลิต บุญชัยวัฒนา อายุ 60 ปีเศษ เป็นเจ้าของและมีการแจ้งสิทธิ์ครอบครองพื้นที่จำนวน 100 ไร่เศษ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ปทส.ก็ตรวจสอบพบภูผาผึ้งรีสอร์ท มีการกระทำความผิดโดยสร้างฝายปิดทางกั้นน้ำ เพื่อใช้ในพื้นที่ส่วนตน โดยมีการกักเก็บกักน้ำที่ไหลลงมาจาก เวเนโต้ ตลาดน้ำสวนผึ้ง ซึ่งภายในรีสอร์ทมีการสร้างบ่อเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ ส่งผลให้น้ำที่ไหลลงไปสู่ลำห้วยที่ส่งไปยังชาวบ้านท้ายน้ำลดน้อยลง นอกจากนี้ยังพบมีการถือครอบครองพื้นที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของพื้นที่ราชพัสดุ มีแต่ใบเสียภาษี บำรุงท้องที่เท่านั้น และยังอยู่ในกระบวนการขอใบอนุญาตใช้พื้นที่กับกรมธนารักษ์เช่นกัน
คณะของง ปทส.ยังตรวจสอบการรุกล้ำพื้นที่จำนวน 35 ไร่ ภายใน มอร์นิ่งกลอรี่รีสอร์ทแอนด์เบเกอรี่ 4 Star Hotel ตั้งอยู่ในเลขที่ 197-198 หมู่ที่ 2 ตำบล สวนผึ้งเช่นกัน โดยขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการดำเนินคดีตามกฎหมาย ในเบื้องต้นถูกดำเนินคดีการบุรุกพื้นที่ป่า เชิงเขา โดยศาลสั่งจำคุก 3 ปี ซึ่งทั้ง 3 รีสอร์ทนี้เป็นรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงในลำดับต้นๆ ของอำเภอสวนผึ้ง และมีการปลูกสร้างติดกับลำห้วยโดยเฉพาะการก่อสร้างฝายกั้นน้ำ เพื่อใช้ประโยชน์ในพื้นที่ส่วนตนเพื่อการประกอบทุจริต ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำแร้ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง น้ำในลำห้วยจะมีประมาณน้อยจนแห้งขอด ทำให้ชาวบ้านในอำเภอสวนผึ้งต้องออกมาร้องเรียนและเข้าร้องเรียนต่อตำรวจกองปราบ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี
อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบในวันนี้ทั้ง 3 รีสอร์ททาง ปทส.จะดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด ในส่วนของพื้นที่มอบให้ทาง กรมธนารักษ์ดำเนินคดี การรุกล้ำลำน้ำ จะมีการดำเนินคดีและส่งฟ้องศาลและยึดพื้นที่คืนเพื่อนำฝายไปใช้ประโยชน์ต่อชาวบ้านต่อไป และพื้นที่ส่วนใดของรีสอร์ทพบมีการกระทำวามผิด และไม่มีใบอนุญาตจะยึดเป็นของส่วนกลางทันที
พ.ต.อ.มนตรี แป้นเจริญ รองผบก.ปทส. กล่าวว่า ต้องตรวจสอบว่ารีสอร์ทต่างๆได้ใบ นส.3 มาได้อย่างไร และรีสอร์ทใดๆที่มีการรุกล้ำลำน้ำจะถูกดำเนินคดีทั้งหมด และการใช้ที่ดินในสาวนผึ้ง หากใครอ้างผู้มีอิทธิพลใดๆ เพื่อมาข่มขู่ชาวบ้าน จะถูกดำเนินคดีทั้งหมดด้วย
วันเดียวกันพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบรีสอร์ต 6 แห่งในเขต อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ที่ได้รับร้องเรียนว่ามีการสร้างฝายรุกลำห้วย จนชาวบ้านในเขตตำบลสวนผึ้งได้รับความเดือดร้อนจากแหล่งน้ำธรรมชาติในลำห้วยบ่อแห้งลง รวมตัวกันนับร้อยคนร้องเรียนยังศูนย์ดำรงธรรม จ.ราชบุรี โดยทางทหารได้อำนวยความสะดวกเป็นการชั่วคราว นำเครื่องสูบน้ำ 6 ตัวช่วยบรรเทาคลายทุกข์ลงไปได้ระดับหนึ่ง
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวอีกว่า สำหรับสวนผึ้งรีสอร์ทนั้น เป็นของนางสุดาทิพย์ และพ.ต.อ.โกวิท ม่วงนวล ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. โดยก่อนหน้านี้ถูกดำเนินคดีและแจ้งข้อกล่าวหาในหลายความผิด อาทิ รุกป่า แอบอ้างเบื้องสูงไปแล้ว โดยจะไปสอบปากคำนางสุดาทิพย์ในเรือนจำต่อไป
นอกจากนี้จะมีการดำเนินคดีกับอีกหลายรีสอร์ตที่สร้างเขื่อนกักน้ำไว้ใช้ในรีสอร์ตของตัวเอง เช่น บ้านอ้อมกอดขุนเขา, Amore รีสอร์ท, Star above, แสตมป์รีสอร์ท และสำนักสงฆ์เขาช่องลม สาขา 2 ทั้งหมดนี้ต้องตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้งว่ามีการกระทำผิดทางกฎหมายหรือไม่ หากพบว่าผิดจะดำเนินการตามกฎหมายทันที
“ตำรวจได้สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เอาไว้หมดแล้ว ก่อนหน้านี้ชาวบ้านหลายคนให้การว่าไม่กล้าที่จะร้องเรียนเนื่องจากกลัวเกรงอิทธิพลเพราะมีการแอบอ้างเบื้องสูง หากผู้ต้องหาทำจริงเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ใน 2 - 3 วัน จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานแจ้งข้อหาต่อไป”พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี