วช.ดันตั้ง “ศูนย์วิจัยไพรเมทแห่งชาติ” พัฒนาการผลิตวัคซีนภายในประเทศและส่งเสริมให้เป็นศูนย์วิจัยระดับชาติตามมาตรฐานสากล รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและความต้องการสัตว์ทดลองในภูมิภาค
นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ วช. เปิดเผยว่า ปัจจุบันการทดลองวัคซีนมีความจำเป็นที่จะต้องใช้สัตว์ในกลุ่ม ไพรเมท ซึ่งได้เป็นลิง 3 ชนิด ได้แก่ ลิงแสม(สะ-แหม) / ลิงกัง / ลิงมาร์มัวเส็ต ซึ่งสัตว์ในกลุ่มนี้แต่เดิมในประเทศไทย ไม่มีการใช้ทดลองจึงต้องส่งตัวอย่างวัคซีนออกไปต่างประเทศและใช้งบประมาณหลายสิบล้านบาท ทาง วช.ได้เล็งเห็นความสำคัญของจุดนี้จึงได้ลงนามความร่วมมือระหว่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย / กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ / และ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ทำโครงการจัดตั้ง “ศูนย์วิจัยไพรเมทแห่งชาติ” ที่ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นที่ดินของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยจะใช้เป็นศูนย์กลางการศึกษา ผลิตสัตว์กลุ่มไพรเมท และเป็นแหล่งข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ไพรเมทของประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยที่ผ่านมา มีประเทศที่มีศักยภาพในทางเศรษฐกิจสูง เช่น สิงค์โป มาเลเซีย บรูไน ยังไม่มีศูนย์วิจัยไพรเมทที่ได้รับการรับรองการวิจัยในประเทศ อีกทั้งยังขาดผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน แต่มีเพียง 2 ประเทศเท่านั้นที่ได้รับการรับรอง คือ อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ แต่งานวิจัยก็ยังอยู่ในวงแคบ ถ้าหากศูนย์วิจัยไพรเมทของประเทศไทยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ก็จะสามารถเป็นศูนย์วิจัยที่สามารถผลิตลิงที่มีคุณภาพพันธุกรรมตามมาตรฐานสากล สามารถรองรับการวิจัยทางชีวภาพการแพทย์ และให้บริการได้ทั่วประเทศรวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านเมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเป้าหมายแรกของการผลิตวัคซีนในประเทศจะมีทั้งหมด 9 ชนิด ในกลุ่ม 7 โรค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี