ตลอดระยะเวลากว่า 53 ปีที่ องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ยืนเคียงคู่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม อ.ส.ค.ได้มีการขยายผลการส่งเสริมและพัฒนาการเลี้ยงโคนมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการปรับปรุงพันธุ์โคนม ระบบการเลี้ยง การจัดการฟาร์ม การพัฒนาคุณภาพน้ำนมดิบ การแปรรูปผลิตภัณฑ์นม ตลอดจนส่งเสริมด้านการตลาด ซึ่งสามารถช่วยสร้างรายได้และสร้างความมั่นคงในอาชีพให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน อ.ส.ค.ยังคงมุ่งพัฒนาการเลี้ยงโคนมทั้งระบบ รวมถึงอุตสาหกรรมนม พร้อมขยายฐานการตลาดนมทั้งในและต่างประเทศ และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับโคนมในเวทีอาเซียนด้วย
นายนพดล ตันวิเชียร รองผู้อำนวยการทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยถึงผลประกอบการของ อ.ส.ค.ปี 2557 ว่า ปีที่ผ่านมา อ.ส.ค.มียอดขายผลิตภัณฑ์นมพาณิชย์และนมโรงเรียนรวมทั้งสิ้น 7,120 ล้านบาท ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ จำนวน 7,080 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นกว่า 10% จากปี 2556 ที่มียอดขาย ประมาณ 6,700 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปี 2558 นี้ อ.ส.ค.ได้ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์นมไว้ที่ 8,000 ล้านบาท หรือโตขึ้นไม่น้อยกว่า 10% ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทายอย่างยิ่ง
นอกจากจะเพิ่มยอดขายนมพาณิชย์ในประเทศแล้ว ปีนี้ อ.ส.ค.ยังมีแผนขยายตลาดนมพร้อมดื่มในตลาดอาเซียนด้วยโดยเฉพาะประเทศกัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม โดยปี 2558 ตั้งเป้าผลักดันส่งออกผลิตภัณฑ์นม ยู.เอช.ที.ไปยังกลุ่มประเทศดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าส่งออก 600 ล้านบาท เพิ่มเป็น 800 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น ประมาณ 20% มีตลาดส่งออกหลัก คือ กัมพูชา และลาว ส่วนพม่าและเวียดนามเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีแนวโนมขยายตัวสูงขึ้น
ขณะนี้ อ.ส.ค.มีตัวแทนจำหน่ายที่พร้อมจะส่งออกผลิตภัณฑ์นมไปยังพม่าและเวียดนามอย่างจริงจังแล้วภายใน 2-3 ปีข้างหน้า คาดว่า ยอดขายนมพาณิชย์ของ อ.ส.ค.ในต่างประเทศจะเกิน1,000 ล้านบาท และในอีก 5 ปีข้างหน้า คาดว่ายอดขายจะโตขึ้นกว่า 30% ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายผลิตภัณฑ์นมของ อ.ส.ค.สูงขึ้นได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 10,000 ล้านบาท
ปัจจุบันกลุ่มอาเซียนมีความคุ้นเคยกับนมแบรนด์ไทย-เดนมาร์ค ซึ่งถือเป็นนมพรีเมียม (premium) ที่มีคุณภาพสูง ถึงแม้ราคาขายจะสูงกว่าคู่แข่งในปริมาณนมที่เท่ากัน แต่นมไทย-เดนมาร์ค ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และได้รับการตอบรับดี อนาคต อ.ส.ค.ได้มีแผนที่จะเปิดและขยายตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม หรือโยเกิร์ตพร้อมดื่มยูเอชทีผสมคอลลาเจนในตลาดอาเซียนเพิ่มเติมด้วย ซึ่งเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค จะสามารถแข่งขันได้ เนื่องจากมีจุดแข็งที่ผลิตจากนมโคสดแท้ 100% และสินค้าที่จำหน่ายในประเทศและส่งออกมีคุณภาพและได้มาตรฐานเดียวกัน
นายนพดลกล่าวอีกว่า ผลจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดหลากหลายรูปแบบในช่วงปีที่ผ่านมา ประกอบกับคุณภาพสินค้าที่ผู้บริโภคให้การยอมรับ ทำให้ความนิยมผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค เพิ่มสูงขึ้นค่อนข้างมาก ส่งผลให้ช่วง 3 เดือนหลังนี้ สินค้าไม่พอขาย และผลิตไม่ทันต่อความต้องการของตลาด เนื่องจากมีปริมาณน้ำนมดิบของเกษตรกรที่อยู่ภายใต้เอ็มโอยู (MOU) จาก 40 สหกรณ์ เข้าสู่กระบวนการแปรรูป ประมาณ 540-550 ตัน/วัน ขณะที่โรงงานแปรรูปนมของ อ.ส.ค.มีความต้องการใช้น้ำนมดิบอย่างน้อยวันละ 570 ตัน ซึ่งเบื้องต้น อ.ส.ค.ได้แก้ไขปัญหาโดยการประสานสหกรณ์โคนม 2-3 สหกรณ์ เพื่อรับซื้อน้ำนมดิบบางส่วนมาเป็นวัตถุดิบในการแปรรูปเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า
อย่างไรก็ตาม ปี 2558 นี้ อ.ส.ค.ได้มีแผนเร่งปรับปรุงและพัฒนาระบบผลิตผลิตภัณฑ์นม อาทิ ปรับปรุงเครื่องจักรเดิม เครื่องบรรจุ และเครื่องสเตอริไรส์ เป็นต้น รวมทั้งสร้างพันธมิตรกับสหกรณ์โคนมเพื่อร่วมกันแปรรูปนมโรงเรียน นอกจากนั้น ยังได้จัดเตรียมงบประมาณ 200 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการตลาดโดยจะดำเนินการเข้มข้นมากขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 เพื่อให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นและช่วยกระตุ้นยอดขายนมไทย-เดนมาร์คเติบโตขึ้นด้วย ซึ่งคาดว่า จะช่วยเพิ่มสมรรถนะการแข่งขันให้กับนมไทย-เดนมาร์ค ได้ และชิงส่วนแบ่งการตลาดได้มากขึ้น
“ในเดือนมกราคมนี้ อ.ส.ค.ได้มีแผนปรับราคาผลิตภัณฑ์นมเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3-5% ซึ่งอาจทำให้ความต้องการน้ำนมดิบชะลอตัวลง และส่งผลกระทบต่อตลาดในระยะสั้น แต่ไม่น่ามีปัญหา เพราะนมเป็นสินค้าจำเป็นที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ด้วยคุณภาพของนมไทย-เดินมาร์ค ที่ผลิตจากนมโคสดแท้ เชื่อมั่นว่าผู้บริโภคยอมรับได้และยอดขายจะขยับตัวสูงขึ้น” นายนพดลกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี