ก.เกษตรฯผวาม็อบยาง
ส่งคนเคลียร์30มกราคม
ชาวสวนที่ยังตกค้าง
ขอชดเชยอีกหมื่นห้า
นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าในวันที่ 29 มกราคมนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มาเป็นประธานการประชุมระดับปลัดกระทรวง และหัวหน้าส่วนราชการ เป็นวาระปกติมีทุกเดือน โดยครั้งนี้มาประชุมที่กระทรวงเกษตรฯ โดยเสนอประเด็นสำคัญต่อนายกฯคือเน้นการทำงานบูรณาการกับกระทรวงต่างๆและขอความร่วมมือเพื่อให้นโยบายรัฐบาลเดินหน้าได้เต็มที่ในการช่วยเหลือเกษตรกรและเพิ่มรายได้ภาคการเกษตรทุกครัวเรือนในปีนี้
รวมทั้งเร่งรัดจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกร ขณะนี้ได้จ่ายเงินชาวนาคืบหน้าไปกว่า 98 เปอร์เซนต์ จ่ายเงินชาวสวนยาง 78 เปอร์เซนต์ ยังเหลือเกษตรกรที่มาขึ้นทะเบียนใหม่ ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ส่งรายชื่อไปให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือธกส.เรียบร้อยแล้ว จะขอความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย เร่งตรวจสอบพื้นที่จริงด้วย
พร้อมทั้งการเดินหน้าจัดสรรเรื่องที่ดินทำกินให้กับผู้ยากไร้ ได้ประสานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขออนุญาตให้พื้นที่เขตป่าจัดหาแหล่งน้ำเช่น สร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และวางแผนการตลาดเพื่อระบายสินค้าเกษตรกรกับกระทรวงพาณิชย์ด้วย
“ปัญหาเร่งด่วนเฉพาะหน้าคือการแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำ แก้ปัญหาภัยแล้ง การจ้างงานและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรในช่วงสามเดือนของฤดูแล้งนี้ ที่ต้องอาศัยร่วมมือจากทุกกระทรวงเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน”ปลัดกระทรวงเกษตรฯ กล่าว
และว่าการแก้ไขปัญหายางพารา ต้องทำให้เกิดความยั่งยืน ครบวงจร และผลักดันให้เกิดการใช้ภายในประเทศโดยกระทรวงอุตสาหกรรม เข้ามาช่วยเรื่องการแปรรูปสำหรับใช้ตามโรงพยาบาล สถานศึกษา สนับสนุนให้องค์กรปกครองท้องถิ่น ใช้ยางทำถนน ตั้งโรงงานล้อยาง ล้อเครื่องบิน”นายชวลิต กล่าว
ทั้งนี้กระทรวงฯจะส่งผู้ตรวจราชการ เข้าร่วมประชุมกับแกนนำเครือข่ายเกษตรกรสวนยางทั่วประเทศ ที่จะกำหนดท่าทีกดดันรัฐบาลเรื่องราคายางตกต่ำ ในวันที่ 30 ม.ค.นี้ ที่จ.ตรัง ซึ่งจะเข้าชี้แจงให้เกิดความเข้าใจตรงกันกับนโยบายรัฐบาลที่เข้าช่วยเหลือชาวสวนยาง”นายชวลิต กล่าว
วันเดียวกัน นายสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยาง กล่าวว่า ท่ามกลางวิกฤติราคายางพาราตกต่ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้ยาง 3 กิโลกรัมขายได้แค่ 100 บาท ซึ่งอีกปีหรือสองปีข้างหน้าอาจต่ำกว่านี้ เพราะประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนผลิตยางได้มากขึ้น โดยที่ชาวสวนยางต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อความอยู่รอด จึงมีทางเลือกเดียวคือ การปฏิรูปยางพาราทั้งระบบ
สำหรับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรือต่อสู้เพื่อแก้ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ทางแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางทำอย่างต่อเนื่องอยู่แล้วนั่นคือ การเสนอให้รัฐบาลรับซื้อยางกิโลกรัมละ 80 บาท โดยชดเชยส่วนต่างเป็นพันธบัตรรัฐบาล แต่ตอนนี้กำลังเข้าสู่ฤดูกาลปิดกรีด ต้นยางหลายพื้นที่ใบยางเริ่มร่วง ต้องหยุดกรีดยาง เปิดกรีดอีกครั้งในเดือนปลายเดือนเม.ย.หรือพ.ค.
ดังนั้น ทางแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางจึงเตรียมการเสนอของบประมาณฉุกเฉินจากรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือคนกรีดยางและชาวสวนยางที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐกรณี 1,000 บาทต่อไร่ โดยเงินช่วยเหลือจะให้จ่ายในช่วงเดือนมี.ค.ถึงเดือนพ.ค.เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยให้จ่ายครัวเรือนละ 5,000 บาทต่อเดือน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15,000 บาท ต่อครัวเรือน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี