คสช.อายัดยาง
49ตู้ขณะขนขึ้นเรือรอส่งไปจีน
พิรุธขรก.จับมือเอกชนทุบราคา
ประเมินให้เน่า/ขายต่ำกว่าสัญญา
แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวงเกษตรฯ เปิดเผยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีโทรศัพท์ ด่วนไปยังองค์การสวนยาง หรือ อสย. ที่เป็นคู่สัญญาในการซื้อขายยางกับบริษัท ไห่หนาน รับเบอร์ สั่งให้มีการอายัด ตู้คอนเทนเนอร์ ที่บรรจุยางพารา กว่า 49 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยมีจำนวน 790 ตัน โดย 40 ตู้ มีการขนลงเรือจาก จังหวัดสุราษธานีเพื่อไปลงเรือใหญ่ที่ อ. แหลมฉบัง จังหวัดระยองส่วนอีก 9 ตู้คอนเทนเนอร์ ยังอยู่ที่สถานียางขุนทะเลที่จังหวัดสุราษฎ์ธานี และกำลังเตรียม พร้อมในการขนส่ง เช่นกัน เพื่อตรวจสอบว่าเป็นยางโครงการรัฐที่มีการลวงตีเกรดว่ายางคุณภาพต่ำจริงหรือไม่ จนเป็นเหตุไม่มีการซื้อยางในตลาด หลังมีคำสั่งดังกล่าวทางทหารในพื้นที่ได้ไปร่วมอายัดตู้คอนเทนเนอร์ยางเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยางทั้งหมด เป็นยางที่ มีการขนจาก สถานียางขุนทะเล จังหวัดสุราษฎ์ธานีทั้งหมด
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ยางทั้งหมดมีการ กำหนดว่าเป็นยางคุณภาพต่ำ โดยคาดว่ามีราคาขายให้กับเอกชนจีน ไม่ถึง46 บาทต่อกิโลกกรัม แม้ว่าที่ผ่านมา มีข้อตกลงชัดเจนว่า ในหนังสือ สัญญา จะมีการรับซื้อยาง ที่มีคุณภาพดี ที่ราคา63.56บาท และเป็นราคาที่หน้าโรงงานที่60.26บาทต่อ กิโลกรัม ในส่วนยางแผ่นรมควัน และมีการส่งมอบยาง เดือนละ20,000 ตัน ภายใน10 เดือน
จนถึงขณะนี้ ไม่มีการรับซื้อยาง ที่มีคุณภาพตามสัญญา แม้แต่แผ่นเดียว มีการซื้อ เฉพาะยางคุณภาพต่ำ และมีการปรับลด โดยอ้างราคาตามหนังสือแนบท้ายสัญญาที่ถูกมองว่า เป็นการเอื้อให้กับเอกชน เนื่องจาก ไม่มีหลักเกณฑ์กำหนดคุณภาพที่ชัดเจนและสามารถชี้วัดได้ ซึ่งที่ผ่านมา เกิดปัญหาเรื่องของการกำหนดคุณภาพที่ไม่ตรงกัน จึงหยุด ส่งมอบยางในส่วนยางคุณภาพต่ำ และอยู่ๆ กับมีการลอบขนส่งยางจึงต้องอายัดไว้ก่อน
“จากการตรวจสอบล่าสุด เมื่อวันที่ 29 มกราคม ที่ผ่านมา หลังจากมี ตัวแทนชาวสวนยางบุก ขอความช่วยเหลือ ให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ พร้อมชี้แจงสาเหตุที่ส่งผลให้ราคาตกต่ำ โดยระบุว่า มีการทำสัญญาขายยางเอื้อ ส่งผลให้ มีการซื้อขายยางในเฉพาะ ยางเกรดต่ำ เพื่อกดราคายางในประเทศ และล่าสุดมีข้อมูลว่ามีการลักไก่ จาก อสย. ที่จะส่งยางไปจีน อีก49 ตู้คอนเทนเนอร์ เมื่อทราบ ให้สั่งให้ อสย. ระงับการส่งยางคุณภาพต่ำ และขอให้ ส่งยางให้เอกชน รับยางในส่วนยางที่มีคุณภาพ ที่ราค63.56บาท ตามสัญญาเพราะถ้าไม่รีบแก้ปัญหาจะทำให้เกิดปัญหาบานปลาย เพราะขณะนี้ยางพาราราคาตกต่ำอย่างมากและอาจเกิดการชุมนุมประท้วง ขยายวงกว้างขึ้นได้ จึงจำเป็นต้อง ยุติการส่งออก โดยจากนี้ไป จะส่งออก เฉพาะยางคุณภาพ โดยจะให้ เอกชน รับมอบยางตามสัญญา “แหล่งข่าวกล่าวและว่าได้ประสานงานเรื่องนี้ผ่านนายอำนวย ปฎิเส รมช.เกษตร
แหล่งข่าว กล่าวด้วยว่า จากการตรวจสอบสัญญาการซื้อขายยาง ให้ระหว่าง อสย. กับทางเอกชนจีน นั้น ไม่ทราบว่า เกิดอะไรขึ้น เพราะสัญญา ที่มีการซื้อขาย ทำหละหลวงมาก และเอื้อประโยชน์ เอกชนสุดๆ โดย เฉพาะสัญญาแนบ ท้ายในส่วนการพิจารณาปรับลด ราคาตามคุณภาพ กลับมีการนำตัวเลขราคารับซื้อที่ไม่ใช่ 63.56 บาท แต่มีการทำสัญญาแนบท้าย แสดงเจตนารับซื้อ คือ ระบุที่50.95บาท และปรัลลดตามคุณภาพ ขณะที่หลักเกณฑ์ เรื่องการชี้วัดคุณภาพ ยางก็ ไม่มีความชัดเจน ที่สามรถชี้วัดได้ โดยเฉพะ เรื่องความชื้น ก็ บอกแค่ความชื้น ซึ่งชี้วัดไม่ได้
ขณะเดียวกัน ยังมีเรื่องของเชื้อรา ก็ ไม่ได้บอกว่า ขนาดไหน จึงจะปรับลด ลง จึงถือว่า รัฐเสียเปรียบ อย่างมาก หาก ยังฝืนทำไป โดยไม่สนใจ จะทำให้รัฐเสียหาย อย่างต่อเนื่องและส่งผลให่ราคายางตกต่ำ จึงควรแก้ไขเป็นการด่วน จนถึงขณะนี้ ที่รัฐบบาลบอกว่าจะทำให้ยางราคา 80 บาท คงไม่มีทางแน่นอน หากยังขายยางต่ำให้กับเอกชนจีนขนาดนี้
บ่ายวันเดียวกัน ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาลยสุนทร รักษ์รงค์ ผู้ประสานงานแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางพารา เดินทางมาอ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 1/2558 โดยมีเนื้อความว่า มาตราการแก้ไขปัญหายางพารา 16 ประการของรัฐบาลล้มเหลวไม่มีแนวโน้มว่า จะดีขึ้น แต่
ผลประโยชน์ตกอยู่กับพ่อค้าโรงงานและเจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริต
ทางแนวร่วมฯ จึงมีมติเรียกร้องให้รัฐบาลยุติโครงการมูลภัณฑ์กันชน และให้วิธีการที่แนวร่วมเคยได้เสนอไว้คือรับซื้อยางพารากิโลกรัมละ80 บาท และชดเชยส่วนต่างเป็นพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งจะแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด ไม่เป็นการแทรกแซงกลไกการตลาดและไม่มีช่องว่างให้เกิดการทุจริต ในช่วงขณะนี้จะต้องเฝ้าระวังว่าจะมีการนำยางพาราจากต่างประเทศเข้ามาสวมสิทธิซื้อขายในตลาดเพื่อให้ได้ราคาที่ 80บาทต่อกิโลกรัม
นอกจากนี้ขอเสนอให้รัฐบาลอนุมัติงบประมาณฉุกเฉินวงเงิน 7,500 ล้านบาทเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือกรณี1,000 บาทต่อไร่ โดยให้จ่ายเงินช่วยเหลือเดือนละ5,000 บาทเป็นเวลา 3 เดือนตามช่วงฤดูปิดกรีดยางในเดือนมี.ค.-พ.ค.
เย็นวันเดียวกันพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังประชุมกอ.รมน. ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งการให้ทุกจังหวัดบูรณาการในการช่วยเหลือประชาชน ทั้งเตือนว่าหากผวจ.คนใดเข้าไปพัวพันกับสิ่งไม่เหมาะก็ต้องดำเนินการตามระเบียบ
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังแสดงความเป็นห่วงและสงสารชาวสวนยางที่ราคายางตกต่ำในขณะนี้ จะหาทางช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยรัฐบาลเข้าไปซื้อนำตลาด และพยายามขายยางในสต๊อกก่อน จากนั้นค่อยซื้อยางใหม่เข้ามา เพื่อดูแลราคายาง และใน 7 ปีข้างหน้ารัฐบาลได้ตั้งเป้าที่จะลดจำนวนสวนยางให้ได้ 7 แสนไร่ และสนับสนุนให้ปลูกพืชชนิดอื่นเข้ามาเสริม
ก่อนหน้านี้ในช่วงบ่ายที่โรงแรมวัฒนาพาร์ค อ.เมืองจ.ตรัง มีการประชุมแกนนำชาวสวนยาง เพื่อหาข้อสรุปเสนอไปยังรัฐบาล ให้ช่วยแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำโดยไม่มีการประท้วงหรือปิดถนนแต่ประการใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี