ระทึกไฟไหม้หัวจักร
ม้าเหล็กขบวนพิเศษ
เดชะบุญไร้เจ็บ-ตาย
เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ต.ต.สุคนธ์ รัสเอี่ยม พนักงานสอบสวนสภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุไฟไหม้หัวจักรรถไฟ บริเวณทางรถไฟ ต.ท่ามะขาม เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี ห่างจากสถานีดอนรักษ์ ประมาณ 500 เมตร ภายหลังรับแจ้งจึงประสาน นางเบญจวรรณ เปรมประยูร นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกาญจนบุรี นำกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมรถดับเพลิง 6 คัน รุดเข้าระงับเหตุ
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบรถไฟสายสิงคโปร์-กทม.ขบวนที่ 951 รวม 17 โบกี้ มีหัวจักรทั้งด้านหน้า และด้านหลัง พบไฟกำลังลุกไหม้ที่หัวจักรด้านหน้าอย่างรุนแรง มีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความพยายามในการฉีดน้ำสกัดอย่างระมัดระวัง เพราะเกรงว่าอาจจะเกิดระเบิดขึ้นได้ หลังจากเปลวเพลิงสงบลง เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้วิธีโรยตัวเข้าไปที่ห้องเครื่องในหัวจักร และฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ไม่ให้เปลวเพลิงปะทุขึ้นมาอีก โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที จึงคลี่คลายสถานการณ์จนเข้าสู่ภาวะปกติได้
อย่างไรก็ดี ในระหว่างเกิดเหตุไฟไหม้หัวจักร เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เร่งปลดโบกี้บรรทุกนักท่องเที่ยวชาวยุโรป เกือบ 200 คน รวม 17 โบกี้ ออกจากหัวจักรทันที จากนั้นพนักงานขับรถไฟ จึงนำหัวจักรด้านท้ายมาลากโบกี้กลับไปยังสถานีดอนรักษ์ ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั่งอยู่ภายในโบกี้ที่ติดแอร์ จึงไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ทำให้ทุกคนไม่ได้ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ แต่ก็มาทราบภายหลังว่าเกิดไฟไหม้หัวจักรรถไฟอย่างรุนแรง ทั้งนี้ สำหรับรถไฟขบวนดังกล่าวมี นายณรงค์ ชื่นชม อายุ 37 ปี และนายพิชิตสามารถ สุนทรานุสร เป็นพนักงานขับรถไฟ
นายพิชิตสามารถ ให้การด้วยการตื่นตกใจ ว่ารถไฟขบวนดังกล่าวเป็นขบวนพิเศษวิ่งระหว่างประเทศสิงคโปว์-กทม.มี 2 หัวจักร 17 โบกี้ ซึ่งวันเดียวกันนี้ ได้นำนักท่องเที่ยวชาวยุโรป เกือบ 200 คน มาเที่ยวที่ จ.กาญจนบุรี หลังจากเคลื่อนรถไฟออกจากสถานีดอนรักษ์ มาได้ประมาณ 500 เมตร จู่ๆ ก็มีกลุ่มควันพุ่งออกมาจากห้องเครื่องหัวจักร ทำให้นายณรงค์ ต้องพยายามเบรกให้รถไฟหยุด จากนั้นจึงรีบช่วยกันถอดหัวจักรออกจากโบกี้นักท่องเที่ยว และนำกลับไปที่สถานีดอนรักษ์ โดยนักท่องเที่ยวทุกคนปลอดภัย และได้อธิบายให้นักท่องเที่ยวทั้งหมดทราบว่า เกิดอะไรขึ้น สำหรับค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว
ด้าน นางเบญจวรรณ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นใน จ.กาญจนบุรี และหลังจากได้รับการประสานจากตำรวจ จึงสั่งการพนักงานดับเพลิง 35 นาย เร่งนำรถดับเพลิง 6 คัน เข้าระงับเหตุทันที ซึ่งนับว่าโชคดีที่ไม่มีนักท่องเที่ยวคนใดได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าว
ขณะที่ พ.ต.ต.สุคนธ์ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าหัวจักรรถไฟที่เกิดเหตุ ผ่านการใช้งานมาแล้วประมาณ 30 ปี คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร หรืออาจเกิดจากน้ำมันรั่ว เนื่องจากพบคราบน้ำมันสีดำ หยดลงสู่พื้นเป็นทางยาว อย่างไรก็ดี คงมีการประสานเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี