นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันที่ 4 กุมภาพันธ์ทุกปี องค์การอนามัยโลกและสมาคมต่อต้านมะเร็งสากล กำหนดให้เป็นวันมะเร็งโลก (World Cancer Day) เพื่อให้ทุกประเทศทั่วโลก รณรงค์ให้รู้ความเข้าใจประชาชนและตระหนักถึงความรุนแรงของโรคมะเร็ง ซึ่งกำลังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่รุนแรงระดับโลก เป็นภัยเงียบคุกคามชีวิตประชาชนวัยแรงงาน และผู้สูงอายุมากที่สุด องค์การอนามัยโลกรายงานพบผู้ป่วยโรคมะเร็งรายใหม่ทั่วโลกปีละประมาณ 14 ล้านคน เสียชีวิตปีละ 8 ล้านคน มากที่สุดคือมะเร็งปอดจำนวน 1.59 ล้านคน แนวโน้มจำนวนผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นทุกประเทศ สำหรับประเทศไทย พบว่าโรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของคนไทยต่อเนื่องมานานกว่า 13 ปี ตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา ล่าสุดในปี 2556 มีคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งทุกชนิด 67,184 คน คิดเป็นร้อยละ 16 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดที่มีปีละ 426,065 คน เพิ่มปีละประมาณ 3,000 คน จังหวัดที่มีอัตราตายสูงที่สุดในประเทศ เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทุก 1 แสนคน อันดับ 1 ได้แก่ พะเยา แสนละ 157 คน อันดับ 2 แพร่ แสนละ 149 คน อันดับ 3 ลำปาง แสนละ 146 คน อันดับ 4 จันทบุรี แสนละ 144 คน อันดับ 5 ร้อยเอ็ด แสนละ 143 คน
การป่วยและเสียชีวิตจากโรคนี้ ข้อมูลในปี 2552 พบก่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจ เช่น จากการรักษา การขาดงานผู้ป่วยและผู้ดูแล ค่าเดินทาง รวมเกือบ 80,000 ล้านบาท ขณะนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งศูนย์เชี่ยวชาญรักษาโรคมะเร็งประจำเขตสุขภาพแล้ว 13 แห่งใน 13 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง พิษณุโลก ลพบุรี ราชบุรี ปทุมธานี ชลบุรี ร้อยเอ็ด อุดรธานี นครราชสีมา สุรินทร์ อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี และสงขลา แต่ละแห่งดูแลประชาชน 5-8 จังหวัด เฉลี่ยประมาณ 5 ล้านคน ในปี 2558 ได้จัดงบลงทุน 113 ล้านบาทเศษ เช่น ซื้อเครื่องสลายเนื้องอกในสมอง ประจำที่ศูนย์เชี่ยวชาญ จ.ร้อยเอ็ดและอุบลราชธานี เป็นต้น ขณะนี้ยังขาดเพียงเขตสุขภาพที่ 3 คือ นครสวรรค์ พิจิตร อุทัยธานี กำแพงเพชร และชัยนาท อยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ คาดจะเสร็จในอีก 2 ปี ทุกเขตสุขภาพสามารถผ่าตัดมะเร็ง รักษาด้วยเคมีบำบัดและรักษาด้วยรังสี เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้ป่วยมะเร็งเร็วขึ้น ได้รับการรักษาใกล้บ้านขึ้น เช่นได้รับการผ่าตัดใน 4 สัปดาห์ ได้รับยาเคมีบำบัดใน 6 สัปดาห์ เป็นต้น
ทางด้านนายแพทย์วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในปีนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ขยายบริการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งที่อยู่ในระยะสุดท้ายของชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่จะดูแลที่บ้าน โดยมีทีมหมอครอบครัวจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ร่วมกับโรงพยาบาลชุมชน หรือโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และอสม.ออกไปให้การดูแลที่บ้านอย่างต่อเนื่องด้วย เพื่อช่วยลดความทุกข์ทรมานผู้ป่วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี