‘เอสซีจี’เดินหน้าเพิ่มศักยภาพผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์
เปิดตัวเครื่องจักรตัวใหม่มุ่งสู่ผู้นำรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน
อุตสาหกรรมการผลิตเยื่อและกระดาษเป็นอุตสาหกรรมมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ อัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมนี้สามารถเป็นตัวชี้วัดให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางสังคม และการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ดังนั้นการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศจึงเป็นตัวกระตุ้นหนึ่งที่สำคัญต่อการเพิ่มศักยภาพในการผลิต และการขยายตัวของอุตสาหกรรมเยื่อและกระดาษให้เพิ่มมากขึ้น
บริษัท เอสซีจี เปเปอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่เป็นผู้นำในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระดาษแบบครบวงจร รายใหญ่ที่สุดของประเทศไทยประกอบด้วย เยื่อกระดาษ กระดาษพิมพ์เขียน กระดาษอุตสาหกรรม และบรรจุภัณฑ์ ผลิตสินค้าคุณภาพมาตรฐานโลก เป็นที่ยอมรับของลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ สามารคงความเป็นด้านผู้นำตลาดทั้งในประเทศ และภูมิภาคอาเซียน
“เอสซีจี” เข้าสู่ธุรกิจกระดาษ ในปี พ.ศ. 2519 เดิมชื่อบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เครือซิเมนต์ไทยปัจจุบันใช้ชื่อเรียกทั้งกลุ่มธุรกิจว่า “เอสซีจี” เริ่มต้นด้วยการเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์ต่อมาได้ขยายกิจการไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นๆอีก อาทิ ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กระดาษ โลหะ เครื่องจักรกล ปิโตรเคมี ร่วมทั้งธุรกิจจัดจำหน่าย โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรม ส่งผลให้มีสินค้าและบริการใหม่ๆ ที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าจนได้รับรางวัลอันทรงเกียรติหลายรางวัล เช่น รางวัล Deming Prizeจาก สมาพันธ์นักวิทยาศาสตร์และวิศวกรแห่งประเทศญี่ปุ่น รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (TQA) และ รางวัล Award for TPM Excellence จาก Japan Institute of Plant Maintenance
เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2558 ที่ผ่านมา บริษัท ในเครือ เอสซีจี เปเปอร์ ได้นำสื่อมวลชนขอนแก่นไปศึกษาดูงานที่จังหวัดราชบุรี เพื่อให้เห็นการพัฒนาการของบริษัทที่นอกเหนือมีฐานที่ตั้งโรงงานผลิตกระดาษรายใหญ่อยู่ใน จ.ขอนแก่น แล้ว เนื่องโอกาสเปิดตัวเครื่องจักรตัวใหม่ PM 16 ที่ติดตั้งสายการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์แห่งใหม่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ด้วยเงินลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท มีกำลังการผลิต 320,000 ตันต่อปี ทำให้เอสซีจี เปเปอร์ เป็นผู้ผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทไม่มีส่วนผสมของสารเคมีและไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งาน 100% โดยมีนางอรรชกา สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย นายสุรพล แสวงศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปเปอร์ ร่วมในพิธีเปิดที่โรงงานผลิตกระดาษ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่เอสซีจีเปเปอร์ กล่าวว่า “จากสภาพเศรษฐกิจโลกที่เริ่มจะฟื้นตัวรวมถึงมีปริมาณ
ความต้องการบรรจุภัณฑ์ในกลุ่มอาเซียนสูงขึ้นเอสซีจี เปเปอร์ จึงมองหาโอกาสทางธุรกิจเพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดในกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ที่เติบโตสูงโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มและสินค้าอุปโภคในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันจึงเห็นความเคลื่อนไหวเอสซีจี เปเปอร์ ในการเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจบรรจุภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและยังเป็นปัจจัยที่ช่วยรักษาความสามารถในการทำกาไรของบริษัทได้อย่างยั่งยืน”
เอสซีจี เปเปอร์ มุ่งขยายศักยภาพธุรกิจบรรจุภัณฑ์โดยลงทุนสร้างและขยายฐานการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์กระดาทั้งในและต่างประเทศเพื่อรองรับความต้องการของตลาดเพิ่มธุรกิจไปสู่การเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์เฟล็กซิเบิ้ลแพ็กเกจจิ้ง(Flexible Packaging) ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตมาจากวัสดุอื่นๆนอกเหนือจากกระดาษเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขยายธุรกิจบรรจุภัณฑ์มุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตสินค้าและผู้ให้บริการด้านบรรจุภัณฑ์ครบวงจร พร้อมกันนี้บริษัทยังได้ลงทุนในการส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องเพิ่มงบประมาณมากขึ้นทุกปีเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและสร้างศักยภาพให้กับบริษัทให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังได้พัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ ในกลุ่มบรรจุภัณฑ์ออกสู่ตลาดมากขึ้นเพื่อส่งเสริมให้สินค้าดังกล่าวตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานและมีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคตัวอย่างเช่นบรรจุภัณฑ์เพื่อใช้ในอุตสาหกรรม ได้แก่ กระดาษแมชชีนเกลซ (Machine Glazed Paper) กระดาษบรรจุภัณฑ์ที่มุ่งเน้นความสะอาดและความปลอดภัยเหมาะสำหรับเป็นบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารและบรรจุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่เน้นเรื่องความสะอาดปลอดภัยสูง กระดาษกลาซีน (Glassine Paper) กระดาษที่มีความเรียบและโปร่งแสงสูงกว่ากระดาษทั่วไปใช้เป็นวัสดุรองหลังสาหรับฉลากสติ๊กเกอร์ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ถุงกระดาษเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม (Industrial Sack Bag) และแกนกระดาษ ฯลฯ บรรจุภัณฑ์เพื่อสินค้าอุปโภคบริโภคได้แก่กระดาษสาหรับบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีความปลอดภัยสูง (Food Safety Packaging) กรวยน้าดื่มอนามัยบรรจุภัณฑ์ที่สามารถสัมผัสอาหารได้โดยตรงปลอดภัยไร้สารเรืองแสงผ่านมาตรฐานจาก GMPเป็นรายแรกในประเทศไทยและเฟล็กซิเบิ้ลแพ็กเกจจิ้ง (Flexible Packaging) เพื่อใช้เป็นบรรจุภัณฑ์สาหรับสินค้าอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคเช่นผ้าอ้อมหรือบรรจุภัณฑ์แบบเติม ฯลฯ รวมทั้งพัฒนาระบบการพิมพ์บรรจุภัณฑ์ให้มีคุณภาพและหลากหลายมากขึ้นเพื่อยกระดับความสวยงามของบรรจุภัณฑ์
“บริษัทหาแนวทางในการเพิ่มโอกาสเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียนโดยเน้นกลยุทธ์การขยายฐานการผลิตโดยการมุ่งเน้นการขยายการเติบโตในอาเซียนและการตลาดไปยังกลุ่มประเทศอื่นๆ ที่มีศักยภาพรวมทั้งการบริหารช่องทางการขายทั้งในและต่างประเทศให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยมีเป้าหมายหลักได้แก่ประเทศเวียดนามและอินโดนีเซียซึ่งมีอัตราการเติบโตของปริมาณความต้องการกระดาษบรรจุภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์กระดาษสูงอย่างต่อเนื่องกลยุทธ์การพัฒนาสินค้าบรรจุภัณฑ์และบริการให้มีมูลค่าสูง (HVA)ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าและช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้บริโภคและกลยุทธ์การพัฒนาพนักงานด้วยการพัฒนาความรู้และทักษะทั้งด้านเทคนิคการผลิตและตามสายวิชาชีพให้มีความเป็นเลิศมีความเชี่ยวชาญทั้งพนักงานในประเทศและต่างประเทศ”
นายรุ่งโรจน์กล่าวเพิ่มเติมและเพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำบรรจุภัณฑ์ในอาเซียนเอสซีจี เปเปอร์ จึงเริ่มต้นปีด้วยการเปิดสายการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์แห่งใหม่ที่จังหวัดราชบุรีด้วยเงินลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาทและมีกำลังการผลิต 320,000 ตันต่อปี ทำให้เอสซีจี เปเปอร์ เป็นผู้ผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ที่สุดในอาเซียน 3
ด้านนายวิชาญ จิตร์ภักดี กรรมการผู้จัดการบริษัทสยามคราฟท์อุตสาหกรรม จำกัด ในเอสซีจี เปเปอร์ กล่าวว่า “เครื่องจักรผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์เครื่องที่ 16 หรือ PM16 เครื่องใหม่นี้เป็นฐานการผลิตกระดาษที่สมบูรณ์แบบที่สุดได้คัดสรรและนำวัตกรรมระดับโลกมารวมกับความเชี่ยวชาญทางด้านการผลิตกระดาษของเอสซีจีเ ปเปอร์ ทำให้ได้การผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพตรงกับความต้องการใช้งานของลูกค้าเริ่มตั้งแต่ระบบการผลิตเยื่อที่สามารถควบคุมสัดส่วนในกระบวนการผลิตได้อย่างแม่นยำทำให้กระดาษมีความแข็งแรงได้คุณภาพสูงสุดระบบเครนเก็บจ่ายสินค้าอัตโนมัติแห่งแรกในภูมิภาคอาเซียนที่ช่วยเพิ่มความถูกต้องแม่นยำในการจัดเก็บจัดส่งสินค้ารวดเร็วและลดความเสียหายของกระดาษจากการขนส่งรวมทั้งเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในด้านการใช้น้ำและพลังงานอย่างคุ้มค่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและชุมชนรอบโรงงาน”
นอกจากกระบวนการผลิตที่ดีแล้วจากความเชี่ยวชาญของพนักงานในการคำนวณสูตรการใช้เยื่อและเทคโนโลยีที่สนับสนุนต่อการผลิตทำให้สามารถผลิตกระดาษที่มีน้ำหนักและความหนาลดลงแต่ความแข็งแรงสูงขึ้นเพิ่มความคุ้มค่าให้กับลูกค้าในการใช้งานและยังช่วยลูกค้าในเรื่องการลดต้นทุนในแง่การขนส่งได้อีกด้วย
“ฐานการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ใหม่นี้ทำให้บริษัทสามารถผลิตกระดาษคุณภาพรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างต่อเนื่องนอกจากนี้บริษัทยังมุ่งขยายตลาดไปต่างประเทศเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในตลาดอาเซียนและมองหาตลาดในประเทศใหม่ๆที่มีศักยภาพเพื่อรองรับกับกำลังการผลิตกระดาษบรรจุภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น นายวิชาญกล่าว
สมใจ นามสุดตา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี