นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้นำงานชลประทานท้องถิ่นมาใช้แก้ปัญหาการพัฒนาแหล่งน้ำ การบริหารจัดการน้ำ และภัยอันเกิดจากน้ำ โดยสำนักบริหารโครงการ สำนักงานชลประทานที่ 15 และ สำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) งานชลประทานท้องถิ่น โครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัย อ.นบพิตำ และ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
โดยโครงการดังกล่าว เป็นโครงการสนองพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระราชทานให้กรมชลประทานศึกษาแนวทางช่วยเหลือราษฎรพื้นที่ อ.นบพิตำ ที่ประสบปัญหาอุทกภัยและดินถล่ม ดังนั้นเพื่อให้การแก้ปัญหาประสบผลสำเร็จ และเกิดจากความต้องการของประชาชนในพื้นที่จริงๆ กรมชลประทานจึงได้นำงานชลประทานท้องถิ่นเข้าไปแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งขยายพื้นที่ครอบคลุมไปถึงอำเภอท่าศาลา ซึ่งประสบปัญหาด้วยเช่นกัน
นอกจากการดำเนินงานใน อ.นบพิตำ และ อ.ท่าศาลา แล้ว กรมชลประทานยังได้ดำเนินโครงการในลักษณะเดียวกันในพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำวังหีบ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
นายสุจินต์ หลิ่มโตประเสริฐ ผอ.สำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า งานชลประทานท้องถิ่น เป็นการปรับรูปแบบมาจากงานวิจัยเพื่อท้องถิ่นของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เป็นงานวิจัยรูปแบบใหม่ที่สามารถนำมาใช้แก้ปัญหาได้จริง ภายใต้แนวคิด โจทย์วิจัยต้องเกิดจากคนในชุมชนที่เห็นปัญหาร่วมกัน คนแก้ก็เป็นคนในชุมชนร่วมกันแก้ไข ส่วนคนนอกทำหน้าที่ส่งเสริมให้เกิดกระบวนการแก้ปัญหามิใช่เป็นผู้ไปแก้ปัญหาให้ โดยการตัดสินใจจะอยู่บนฐานข้อมูลที่ประชาชนร่วมกันเก็บ รวบรวม วิเคราะห์ วางแผนแก้ปัญหาด้วยประชาชนเอง
ทั้งนี้งานชลประทานท้องถิ่น จะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในอนาคต เป็นเครื่องมือสำหรับการพัฒนาแหล่งน้ำตามศักยภาพของลุ่มน้ำให้สมดุล รวมทั้งก่อให้เกิดความร่วมมือของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น ภาครัฐ เอกชน นักวิชาการ และภาคประชาชน ที่จะร่วมกันคิด วิเคราะห์ และวางแผนการแก้ปัญหาเรื่องน้ำด้วยตนเอง
ส่วนระยะเวลาการดำเนินงานแต่ละโครงการ จะใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี ซึ่งจะช่วยผลักดันให้การพัฒนาแหล่งน้ำ การบริการจัดการน้ำ และการแก้ปัญหาภัยต่างๆ อันเกิดจากน้ำ ของกรมชลประทาน ประสบผลสำเร็จได้ สามารถลดการต่อต้านและขัดขวางจากประชาชนในพื้นที่ได้ เนื่องจากเป็นการแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่นั้นๆ ด้วยตนเอง ตลอดจนยังจะทำให้เกิดความร่วมมือในทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืนอีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี