คำถาม ดินที่จะใช้ปลูกอ้อยต้องเป็นดินประเภทใด และจะปลูกโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์อย่างเดียวจะทำได้อย่างไรครับ
คำตอบ ลักษณะดิน และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการปลูกอ้อย ควรเป็นที่ดอน หรือที่ลุ่มไม่มีน้ำท่วมขัง ลักษณะดินเป็นดินร่วน ดินร่วนเหนียว หรือดินร่วนปนทราย มีการระบายน้ำและอากาศดี มีค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินอยู่ในช่วง 5.5-7.0 ค่าความเค็มไม่เกิน 4.0 เดซิซิเมนต่อเมตร อุณหภูมิ 30-35 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝน 1,000-1,500 มิลลิเมตรต่อปี
พันธุ์อ้อย คัดเลือกพันธุ์อ้อยที่มีความสมบูรณ์จากแปลงที่ไม่มีการระบาดของโรค และมีอายุเก็บเกี่ยว 10-14 เดือน
การเตรียมดิน นักวิชาการเกษตรของกรมพัฒนาที่ดิน ได้แนะวิธีการจัดการโดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเพิ่มผลผลิตอ้อย ดังนี้ ก่อนปลูก ทำการไถกลบด้วยผานสาม 1-2 ครั้ง ลึก 30-50 เซนติเมตร ตากดิน 7-10 วัน ถ้าเป็นต้นฤดูฝนให้พรวน 1 ครั้ง ถ้าปลายฤดูฝน ต้องพรวนเพิ่มอีก 2-3 ครั้ง จนดินร่วนซุย เพื่อกลบเศษซากพืชจากฤดูก่อน และทำลายวัชพืชต่างๆ ให้ลดจำนวนลง ถ้ามีชั้นดินดาน ต้องไถระเบิดดินดานให้ลึก 50-75 เซนติเมตร และทำการปลูกพืชปุ๋ยสด พืชปุ๋ยสดที่นิยมปลูกในไร่อ้อย ได้แก่ ถั่วมะแฮะ อัตรา 6 กิโลกรัมต่อไร่ หรืออาจใช้ปอเทือง อัตรา 5 กิโลกรัมต่อไร่ หรือถั่วพร้า อัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ หว่านหรือโรยเป็นแถวก่อนปลูกอ้อย แล้วทำการไถกลบ เมื่อพืชปุ๋ยสดออกดอก หรือเมื่ออายุ 50 วัน แล้วปล่อยให้ย่อยสลาย 15 วัน จึงเตรียมแปลงปลูกอ้อย
ในขณะเตรียมดินก่อนปลูกอ้อย ให้ฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพ ที่ผลิตจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.2 (ที่เจือจาง 1:500) อัตรา 5 ลิตรต่อไร่ และก่อนการปลูกอ้อยให้ใส่เชื้อจุลินทรีย์ควบคุมเชื้อสาเหตุโรคพืช ที่ผลิตจากสารเร่งซุปเปอร์ พด.3 ระหว่างแถวที่จะปลูกอ้อย อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อป้องกันโรคเน่าคอดิน และลำต้นเน่าของอ้อย
ทำการปลูกอ้อย โดยทำการยกร่องปลูก ให้มีระยะระหว่างร่อง 1.0-1.5 เมตร อ้อยที่มีการแตกกอมากหรือปานกลางให้ปลูกเป็นแถวเดียว ส่วนอ้อยที่แตกกอน้อยให้ปลูกเป็นแถวคู่ระยะ 30-50 เซนติเมตร
ในพื้นที่ที่มีความลาดชัน ควรปลูกหญ้าแฝก ปลูกในช่วงต้นฤดูฝน เป็นแถวตามแนวระดับขวางความลาดเทของพื้นที่ ภายหลังจากที่ไถเตรียมดินแล้ว โดยการขุดหลุมในร่องที่ไถไว้สำหรับเป็นแนวระดับยาวตามพื้นที่ ให้แต่ละต้นห่างกัน 5 เซนติเมตร หญ้าแฝกแนวต่อไป ก็จะปลูกขนานกับแนวแรก โดยมีระยะห่างขึ้นกับสภาพความลาดชันของพื้นที่เช่น ถ้าระยะตามแนวดิ่ง คือ 2 เมตร แนวรั้วหญ้าแฝก ที่ความลาดเอียง 5% 10% และ 15% จะอยู่ห่างกัน 40 เมตร 15 เมตร และ 10 เมตร ตามลำดับ
การปลูกพืชแซม ในพื้นที่ที่ไม่มีความลาดชัน หลังจากปลูกอ้อยได้ 15 วัน ให้ทำการปลูกพืชปุ๋ยสด เช่น ถั่วพุ่ม หรือถั่วพร้า โรยเป็นแถวแทรกระหว่างแถวอ้อย เพื่อป้องกันวัชพืช เมื่อพืชปุ๋ยสดมีอายุ 50 วัน ให้ทำการตัด แล้วนำมาคลุมดิน เพื่อรักษาความชื้นในดินและเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดิน
การดูแลรักษา แหล่งชลประทาน ให้น้ำทันทีหลังปลูก ต้องไม่ให้อ้อยขาดน้ำติดต่อกันนานกว่า 20 วัน และฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพ ให้กับพืชปุ๋ยสดทุก 7 วัน อัตรา 2 ลิตรต่อไร่ (ที่เจือจาง 1:1,000) หลังปลูกอ้อยแล้ว 15 วัน ให้ฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพทางใบและลำต้น หรือรดลงดินให้กับอ้อยทุก 1 เดือน จนถึงระยะเก็บเกี่ยว
การป้องกันกำจัดโรคและแมลง ถ้าอ้อยเป็นโรคใบขาว แส้ดำ กอตะไคร้ หนอนกอจุดใหญ่ นอนเจาะลำต้น เพลี้ย จั๊กจั่นสีน้ำตาล และแมลงศัตรูธรรมชาติ ให้ใช้สารสกัดธรรมชาติ หรือสารป้องกันกำจัดศัตรูอ้อย
การจัดการดินหลังเก็บเกี่ยว หลังจากตัดอ้อยส่งโรงงานแล้ว สามารถเก็บตอไว้ได้ 2 ปี ให้นำเศษเหลือจากการเก็บเกี่ยว เช่น ใบอ้อย และยอดอ้อยคลุมดินเป็นการรักษาความชื้น และเพิ่มอินทรียวัตถุให้กับดิน และบำรุงดินโดยการใช้น้ำหมักชีวภาพ ปลูกพืชปุ๋ยสดแซมระหว่างแถวอ้อย และใช้เชื้อจุลินทรีย์ควบคุมเชื้อสาเหตุโรคพืชซุปเปอร์ พด.3 ในอ้อยตอปีที่ 1 และอ้อยตอปีที่ 2
การปลูกอ้อย โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์วิธีนี้ จะสามารถเพิ่มผลผลิตอ้อย และลดต้นทุนการผลิต เมื่อเทียบกับวิธีการปฏิบัติเดิมของเกษตรกรได้ ประมาณ 20%…นะครับ
นาย รัตวิ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี