25 ก.พ. 58 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายนพดล อุเทน ผู้อำนวยการกองคดี 1 ร.อ.กลวิตร บุนนาค ผู้อำนวยการประจำสำนักปฏิบัติการพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.เอกมล วิชญเนตินัย พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ ร่วมกันเป็นพยานในการเปิดตู้เซฟของบริษัท เอส.ดับปลิว.โฮลดิ้งกรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ที่เชื่อมโยงกับคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ต่อหน้าสื่อมวลชน
โดยใช้ช่างจำนวน 2 ชุดในการเปิดเซฟและต้องใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง จึงสามารถเปิดเซฟได้สำเร็จ สำหรับทรัพย์สินภายในประกอบด้วย ปืน 5 กระบอก มีด 1 เล่ม เอกสารประกาศนียบัตรสนับสนุนหน่วยราชการ พระเครื่อง 1 กล่อง ด้านในมีพระ อาทิ พระสมเด็จวัดปากน้ำ เลี่ยมกรอบทอง พระปิดตา หยกแกะสลักรูปเจ้าแม่กวนอิม และสมุดบัญชีธนาคารจำนวนหนึ่ง
สำหรับตู้เซฟนี้ ปปง.และดีเอสไอ ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าค้นบริษัทฯ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับวัดพระธรรมกาย จึงขนย้ายตู้เซฟมาเก็บรักษาไว้ที่สำนักงาน ปปง. พร้อมรถยนต์ออดี้สปอร์ต และรถตู้โฟลค์ รวม 2 คัน
ด้านนายนพดล กล่าวเพิ่มเติมว่า คดีนี้ ปปง.ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลธุรกรรมทางการเงินของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น พบว่า นายศุภชัย ได้โอนเงินให้ นายสถาพร วัฒนาศิรินุกุล เมื่อปี 2553 จำนวน 127 ล้านบาท โดยต่อมาพบว่านายสถาพร ได้โอนเงินให้บริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้งกรุ๊ปฯ เมื่อปี 2554-2555 จำนวน 124 ล้านบาท จึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นายศุภชัย กับพวก มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักยอกทรัพย์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แกะรอยเส้นทางทรัพย์สิน'ศุภชัย' พบบ้าน2หลังอยู่นอกบัญชี'ปปง.'
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี