เริ่มต้นสัปดาห์กับ “เกษตรบูรณาการ” ถึงเรื่องการติดตามการทำงานของกระทรวงเกษตรฯอย่างต่อเนื่อง ตามกรอบที่รัฐบาล “ประยุทธ์ 1” ที่วางกรอบเอาไว้ให้ทางกระทรวงเกษตรฯ เดินหน้าแก้ปัญหาปากท้อง ปัญหาสินค้าเกษตร ปัญหาที่ดินทำกิน และตบท้ายด้วยการวางระบบรากฐานการพัฒนาการเกษตรให้เป็นระบบ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงที่ควรจะเป็น
น่าแปลกใจ แม้มีกรอบการทำงานชัดเจน ถึงขณะนี้ผลงานตามที่วางไว้แทบไม่มีอะไรคืบหน้า แม้รัฐมนตรีที่รัฐบาลส่งมาอย่างท่าน “ปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา” จะบอกกับคนทั้งประเทศว่า “ไม่ได้อยู่เฉยๆ ทำงานนะครับ รับทราบปัญหา และพยายามจะแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ” แต่นั่นมันคงไม่ใช่ เพราะแม้แต่เรื่องการบริหารงานในส่วนทีมงานท่านเองยังมีปัญหากันเอง ส่วนผลงานที่เป็นที่ประจักษ์จากที่เห็น แม้ว่าจะแหกปากบอกใครว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิด แต่ที่แน่ๆ มีข้าราชการระดับสูง ที่เป็นถึงอธิบดีในกระทรวงเกษตรฯ ที่ทนไม่ไหว ลาออกไปแล้ว 2 คน ส่วนต้นตอปัญหายังอยู่ที่เดิม ชั่งน่าแปลกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
งานนี้ต้องบอกว่าน่าระอา เพราะเรื่องวุ่นๆ ในกระทรวงเกษตรฯถามใครในกระทรวงเกษตรฯ ก็ทราบปัญหากันเป็นอย่างดีว่าเกิดจากคนของใคร และเท่าที่คุยกับข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ ส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยุคนี้หนักกว่ารัฐบาลไหนๆ แม้ก่อนหน้าที่พวกเขามองว่า เมื่อเห็นรายชื่อรัฐมนตรีที่จะเข้ามาบริหารกระทรวงเกษตรฯ ชื่อ “ปีติพงศ์” ดูเหมือนจะมีความหวัง เพราะท่านเหมือนคนที่ทราบปัญหาของกระทรวงเกษตรฯ เป็นอย่างดี แต่วันนี้ต้องบอกตรงกันผิดหวังจริงๆ เพราะทั้งเรื่องการบริหารงาน การวางคนเข้ามาบริหาร ให้ถูกที่ถูกทางวันนี้ชัดเจน มีแต่ “เด็กนาย” ส่วนนายไหน ต้องตามกันเอง เพราะบอกไป ท่านเองก็คงไม่เชื่ออยู่ดี แต่ที่แน่ๆ มีคนกระซิบบอกมาว่า มีขบวนการหากินใกล้ๆ ตัวท่านนั้นเอง
ถึงวันนี้คงไม่ต้องถามใคร เพราะผลงานที่ทำมาหลายเดือนค่อนข้างประจักษ์ต่อสายตาประชาชน เพราะเท่าที่ฟังเสียงจากการสำรวจ ความเห็นก็ชัดเจนอันดับ 1 และอันดับ 2 ในเรื่องผลงานที่ไม่เข้าตาคือ รัฐมนตรีที่มีนามว่า“ปีติพงศ์” และ “อำนวย ปะติเส” ของกระทรวงเกษตรฯนั้นเอง คงไม่ต้องอธิบายว่าเรื่องอะไร เพราะวันนี้ที่ยิ้มร่าคือ พ่อค้า ส่วนเรื่องการกิน “น้ำตา” มันยังคงเป็นเกษตรกรเช่นเดิม โดยเฉพาะเรื่องปัญหาราคายางพาราที่ยังวุ่นๆ จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีคำตอบว่ายางที่ซื้อนั้นเป็นของใคร แล้วที่ทำสัญญาขายไปให้เอกชนจีน ทำไมไม่ส่งออกไปตามสัญญา เพราะชัดเจนว่า ขณะนี้ยางพาราในตลาดโลกขาดแคลน ไม่มีสินค้า จนหลายบริษัทเสนอที่จะขอซื้อในราคาไม่ต่ำกว่า 1,800 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่เราทำสัญญาขายยางให้เอกชน มัดคอตัวเอง เลหลังขายยางดีในราคาถูกเพียง 1,400 เหรียญสหรัฐ แม้เขาไม่สนใจรับมอบยางตามสัญญา ที่เราสามารถยกเลิกได้แต่กระทรวงเกษตรฯ ไม่ยกเลิกสัญญา มันเกิดอะไรขึ้น ขณะที่งานด้านการช่วยเหลือเกษตรกรประจำในช่วงฤดูแล้ง โดยเฉพาะการปลูกพืชหลังนา ที่กรมส่งเสริมการเกษตรนำเมล็ดพันธุ์ถั่วไปแจกให้กับเกษตรกร มันชั่งน่าแปลก เพราะมันดันไปโผล่ขายในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี แต่ดันติดป้ายกรมส่งเสริมการเกษตร ว่างๆ ตรวจสอบทีมันมาอย่างไงเพราะสิ่งที่รัฐมนตรีพูดกับสิ่งที่เป็นจริงมันคนละทิศทาง
งานนี้ต้องยกคำของรัฐมนตรีที่ว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกคนต้องรู้จักดูตนเอง เพราะทุกอย่างมันอยู่ที่คนอยู่ที่มนุษย์ทั้งนั้น ภาษาฝรั่งเขาเรียก “วันวอยซ์” ถ้าเราไม่ทำเรื่องอะไรที่ไม่ดีชาติมันก็เจริญเอง อย่าไปโทษคนอื่นเขาเลย ดูตัวเราเองส่องกระจกดูตอนเช้า แล้วถามตัวเองว่าไอ้คนที่อยู่ในกระจกพอที่จะนับถือได้หรือเปล่า ถ้าทุกคนทำแค่นี้ก็เจริญอยู่แล้ว” สุดท้ายอยากถามท่านดังๆ ว่า วันนี้ท่านถามตัวเอง และคนใกล้ๆ ตัวท่านหรือยัง ว่าส่องกระจกตอนเช้าแล้วเห็นอะไร
ดอกปีบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี