นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯและคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร ได้จัดทำร่างยุทธศาสตร์การวิจัยด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งด้านการวิจัยและพัฒนาด้านการเกษตรให้กับประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบูรณาการงานวิจัยร่วมกันภายในกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งการดำเนินงานต่างๆ จะต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 11 (2555-2559) นโยบายและยุทธศาสตร์การวิจัยของชาติ ฉบับที่ 8 (2555-2559) และนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยแบ่งประเภทสินค้าออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ 23 ชนิด ได้แก่ สินค้าพืช สินค้าประมง และสินค้าปศุสัตว์ และ 2.กลุ่มสินค้าเกษตรที่มีศักยภาพในการพัฒนาทางการค้า จำนวน 13 ชนิด ได้แก่ สินค้าพืช สินค้าประมง สินค้าปศุสัตว์ และสินค้าหม่อนไหม
นายชวลิต กล่าวต่อว่า การจัดทำร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าว มี 2 ยุทธศาสตร์สำคัญ คือ 1.การวิจัยและพัฒนาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงตลาดในภูมิภาคอาเซียนและตลาดโลก 2.การวิจัยและพัฒนาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 3.การวิจัยและพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงาน และ 4.การวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างนวัตกรรม และเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและอาหารเชิงพาณิชย์
นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯยังได้จัดทำแผนพัฒนาบุคลากรวิจัยด้านการเกษตร เน้นการพัฒนานักวิจัยในลักษณะต่อยอด สนับสนุนทุนการพัฒนาบุคลากรวิจัยในหลายประเภท เช่น ทุนศึกษาต่อ ทุนฝึกอบรมและปฏิบัติงานวิจัย และทุนการนำเสนอผลงานวิจัยต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งแผนพัฒนาบุคลากรวิจัยด้านการเกษตร มีแนวทาง 3 ด้าน คือ 1.ผู้นำการวิจัยด้านการจัดการการผลิตผลทางการเกษตร 2.ผู้นำการวิจัยด้านเศรษฐกิจ สังคม และสถาบันเกษตรกร และ 3.ผู้นำการวิจัยด้านกฎระเบียบและมาตรฐาน โดยมีเป้าหมายเป็นผู้นำการเกษตรของประเทศภายใน 5 ปี และเป็นผู้นำการเกษตรของอาเซียนภายใน 10 ปี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี